เห็นชอบกรอบความตกลงไม่หนุนประมงผิดกฎหมาย

ทำเนียบรัฐบาล 13 ก.ค.-ที่ประชุมครม.เห็นชอบจัดทำความตกลงว่าด้วยการอุดหนุนประมงของ WTO ย้ำไม่อุดหนุนประมงผิดกฎหมาย


น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.เห็นชอบกรอบเจรจาการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้าระดับรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก (WTO) เรื่องการเจรจาจัดทำความตกลงว่าด้วยการอุดหนุนประมง ซึ่งจะประชุมผ่านระบบทางไกล ในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยสาระสำคัญของกรอบเจรจา ประกอบด้วย 1.ห้ามอุดหนุนการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU Fishing) 2.ให้บริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำที่ดี เป็นปัจจัยหนึ่งที่ใช้ในการพิจารณาว่าประเทศสมาชิกสามารถให้การอุดหนุนแก่ภาคประมงได้ต่อไปหรือไม่ และ3.ให้ปฏิบัติที่เป็นพิเศษและแตกต่าง (Special and Differential Treatment : SDT) แก่ประเทศกำลังพัฒนารวมถึงประเทศไทย

“ฝ่ายไทยจะผลักดันให้การเจรจาความตกลงว่าด้วยการอุดหนุนประมง หาข้อสรุปในการประชุมระดับรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลก (WTO) สมัยสามัญ ครั้งที่ 12 ที่จะจัดประชุมระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน – 3 ธันวาคม 2564 ซึ่งร่างความตกลงว่าด้วยการอุดหนุนประมง มีสาระสำคัญประกอบด้วย 4 หัวข้อหลัก ดังนี้ 1.ห้ามการอุดหนุนประมงที่ให้แก่เรือประมงหรือผู้ประกอบการประมงหลังจาก ถูกตัดสินว่าทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม 2.ห้ามให้การอุดหนุนประมงในพื้นที่ที่ทรัพยากรสัตว์น้ำร่อยหรอและไม่อยู่ในระดับที่ยั่งยืน (Overfished Stocks) 3.ห้ามให้การอุดหนุนประเภทที่นำไปสู่การทำประมงที่เกินศักยภาพ (Overcapacity) หรือการทำประมงที่เกินขนาด (Overfishing) เช่น การอุดหนุนเพื่อปรับปรุงเครื่องมือทำประมง ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง จนทำให้สามารถจับสัตว์น้ำได้มากกว่าปกติ และ4.ประเด็นอื่น ๆ เช่น การปฏิบัติที่เป็นพิเศษและแตกต่าง (SDT) ไปจากข้อ 1-3 โดยยกเว้นให้ประเทศกำลังพัฒนา (รวมถึงไทย) เช่น ยังคงให้การอุดหนุนแก่ประมงที่มีรายได้ต่ำ ขาดแคลนทรัพยากร ต่อไปได้อีก 2 ปี นับจากวันที่ความตกลงมีผลบังคับใช้” รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว


น.ส.รัชดา กล่าวว่า การจัดทำความตกลงนี้ สอดคล้องกับการดำเนินการและท่าทีของไทยที่ปฏิรูปกฎหมายด้านการประมงตั้งแต่ปี 2558 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยที่ประชุมเห็นควรให้ผลักดันประเด็นสำคัญของไทยในการเจรจาจัดทำความตกลงฯ ซึ่งจะทำให้ไทยสามารถแข่งขันในการส่งออกสินค้าประมงไปตลาดโลกได้อย่างเท่าเทียม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง