รัฐสภา 5 ก.ค. –“นพ.อำพล” จี้รัฐเร่งมาตอบกระทู้ปมการดำเนินการเรื่องฉีดวัคซีนให้ทั่วถึง มีประสิทธิภาพ หลัง “อนุทิน” ขอเลื่อนแจง ย้ำสถานการณ์โควิดส่งผลกระทบหนักต่อประชาชน ขณะ “ครูหยุย” ถามรมว.เสมา แนวทางการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง
การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (5ก.ค.) มีพล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร รองประธานวุฒิสภา เป็นประธาน มีวาระการพิจารณากระทู้ถามของสมาชิกโดยนพ.อำพล จินดาวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา ระบุว่าได้ทำหนังสือตั้งกระทู้สอบถามประเด็นระบบการฉีดวัคซีนป้องกันทั่วถึงและมีประสิทธิภาพ โดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมอบหมายให้นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขตอบ ซึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมามีเหตุต้องงดการประชุม โดยวันนี้(5ก.ค.)ได้รับทราบว่ารัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ขอเลื่อนการตอบกระทู้ ซึ่งตนรู้สึกเสียดาย เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะนี้เป็นปัญหาใหญ่กระทบต่อสุขภาพความเป็นอยู่ของประชาชน รวมทั้งปัญหาการบริหารจัดการ วัคซีน ซึ่งต้องยอมรับว่ามีปัญหาอยู่ ซึ่งการมาตอบกระทู้จะช่วยระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ จึงอยากฝากไปยังประธานฯ ประสานไปยังฝ่ายบริหารให้เร่งมาตอบกระทู้รปะเด็นดังกล่าว เพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหาต่อไป
จากนั้นเป็นการตั้งกระทู้ถามประเด็นการจัดการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์และหน้าที่พลเมือง โดยนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ สมาชิกวุฒิสภา ถามไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยระบุว่าปัจจุบันต้องยอมรับว่า สามารถผลิตคนเก่งเป็นจำนวนมาก แต่ส่วนใหญ่ไม่สนใจรากเหง้าความเป็นคนไทย ไม่คิดจะกลับไปพัฒนาท้องถิ่นบ้านเกิดของตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่สังคมตั้งคำถาม วันนี้หลายคนเรียกร้องสิทธิมากกว่าการทำหน้าที่การเป็นพลเมืองที่ดีของประเทศ ซึ่งคำถามเหล่านี้สะท้อนว่าวันนี้ระบบการจัดการเรียนการสอนหรือระบบการศึกษาไทยมีความผิดพลาดในประเด็นใด จึงต้องถามกระทรวงศึกษาธิการถึงนโยบายการจัดการเรียนการสอนว่ากระทรวงศึกษาธิการมีแนวทางหรือการจัดการเรื่องนี้อย่างไร
น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ชี้แจงว่ากระทรวงศึกษาธิการเล็งเห็นความสำคัญเรื่องวิชาประวัติศาสตร์และวิชาพลเมือง โดยกำหนดให้ผู้เรียนทุกคนทั้งสามระดับไม่ว่าจะเป็นการศึกษาขั้นพื้นฐาน ป1.- ม.6 ระดับการศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) รวมไปถึงระดับอาชีวศึกษา ซึ่งในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานนั้นในช่วงชั้นป.1 – ม. 6 แบ่งวิชา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้สำคัญ ซึ่งวิชาประวัติศาสตร์เป็นหนึ่งในกลุ่มสาระวิชาซึ่งอยู่ในกลุ่มการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมและมีการแยกออกมาเป็นวิชาเฉพาะ
“สถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้ต่าง ๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลง กระทรวงศึกษาธิการเดินหน้าวาระเร่งด่วนเรื่องการทำหลักสูตรฐานสมรรถนะ โดยเน้นผู้เรียนซึ่งวิชาประวัติศาสตร์และพลเมือง บรรจุอยู่ในรูปแบบการสอน รวมทั้งเตรียมความพร้อมให้ครูผู้สอนและใช้เทคนิคในการสอนวิชาประวัติศาสตร์ที่สอดคล้องกับนโยบายหลักสูตรสมรรถนะ เพื่อให้มีความน่าสนใจ ให้ผู้เรียนนำมาคิดวิเคราะห์และเห็นถึงความสำคัญของบรรพบุรุษและรากเหง้าของชาติไทย ขณะเดียวกันได้ตั้งคณะกรรมการดูแลหลักสูตร รวมทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นโดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัยราชภัฎทั่วประเทศผลิตบุคลากรให้มีความพร้อมรองรับหลักสูตรและพัฒนาองค์ความรู้เพื่อจัดการเรียนการสอนวิชาประวัติศาสตร์หน้าที่พลเมืองให้มีประสิทธิภาพ.-สำนักข่าวไทย