รัฐสภา 21 ต.ค.- “สว.นันทนา” ตั้งกระทู้ถามแนวทางช่วยธุรกิจท่องเที่ยวไทย แก้ปัญหานอมินี ทุนเทารุกคืบ แขวะมี จนท.ถูกนินทาเป็นเทวดาคุมใช้กฎหมายไม่เป็นธรรม ด้าน “สรวงศ์” ยันไม่นิ่งนอนใจ จัดการปิด 40 บริษัท แก้ปัญหาไฟลต์บิน-ออกมาตรการช่วย หวังบูมช่วง High Season
การประชุมวุฒิสภา วันนี้ (21 ต.ค.) มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาเป็นประธานการประชุม ได้พิจารณากระทู้ถาม เรื่อง มาตรการจัดการปัญหาทัวร์นำมีและการส่งเสริมความยั่งยืนของธุรกิจท่องเที่ยวไทย ที่นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สว. ตั้งขึ้นเพื่อสอบถามแนวทางและมาตรการฉุกเฉินเร่งด่วน มาตรการเฉพาะหน้า ในการระงับยับยั้งช่วยผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยเพื่อสู้กับทุนเทาอย่างไร แก้ปัญหาธุรกิจทุนที่มีนอมินี เพื่อไม่ให้ต่างชาติเข้ามารวมถึงจะปรับปรุงกฎหมายหรือระเบียบการควบคุมธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเกิดการจดทะเบียน ทุนนอมินี ที่เป็นการรุกคืบทุนต่างชาติเข้ามาครอบงำธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยอย่างไร รวมถึงจะทำอย่างไรที่จะให้เจ้าหน้าที่ที่ถูกนินทาว่าเป็นเทวดาทำหน้าที่ควบคุมและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังและเป็นธรรม และถ้ามีผู้ใดพบว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทำตัวปกป้องทุนเหล่านี้ให้ติดต่อที่ไหน เพื่อแจ้งเบาะแส เพื่อให้การท่องเที่ยวไทยสดใสตลอดไป
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาชี้แจงว่าได้พูดคุยกับผู้ประกอบการและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ถ้าจะให้ปัญหาดังกล่าวหายไปต้องอาศัยความร่วมมือจากมัคคุเทศก์ที่ต้องจัดการปัญหาภายใน เพราะการจดทะเบียนต่างๆ มีข้อกำหนดไว้ชัดเจนตามกฎหมาย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ กรมการท่องเที่ยวและตำรวจท่องเที่ยวทำงานอย่างหนัก มีการจับกุม พัฒนาระบบAI เพื่อจะเข้าไปช่วยดูแลเรื่องการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ
นายสรวงศ์ กล่าวว่าในส่วนข้อกฎหมายธุรกิจท่องเที่ยวและมัคคุเทศก์กำหนดไว้ อาทิ ต้องมีผู้มีสัญชาติไทยเท่านั้น ส่วนนิติบุคคลคนไทยต้องถือหุ้นไม่น้อยกว่า 51 % คนมีสัญชาติไทยมีอำนาจลงนาม นอกจากนี้ในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า กระทรวงการท่องเที่ยวออกมาตรการทำข้อตกลง กับ 6 หน่วยงาน คือกรมการท่องเที่ยว สำนักงานปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมสอบสวนคดีพิเศษ กองยัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ตั้งศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาผู้ประกอบการท่องเที่ยวโดยใช้คนไทยเป็นนอมินี ทำหน้าที่สุ่มตรวจ ซึ่งเบื้องต้นพบว่ามีถึง 40 บริษัท ที่มีการเปลี่ยนรายละเอียดผู้ถือหุ้น จึงได้สั่งปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงบูรณาการอัพเดทกับกรมการค้า เรื่ององค์ประกอบผู้ถือหุ้นแบบเรียลไทม์
ส่วนในระยะยาว นายสรวงศ์ กล่าวว่าได้ มีการหารือเพื่อร่างพ.ร.บ. ขึ้นมาแล้ว ทั้งนี้ได้หารือผู้ประกอบการพบว่านักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมาไทยเป็นจำนวนมาก แต่มีปัญหาเรื่องข้อจำกัดสายการบิน จึงได้ขอความร่วมมือไปแล้วว่า ช่วง 3 เดือนจากนี้เป็นต้นไป ไฟล์ทที่เคยมีถูกลด และยกเลิกช่วงโควิดโดยเฉพาะจากอินเดียให้เพิ่มเที่ยวบิน รัฐบาลยังวาง โครงการสำหรับการท่องเที่ยวในช่วง High Season ไว้แล้ว ยืนยันว่ารัฐบาลไม่นิ่งนอนใจประเด็นปัญหาเรื่องทัวร์ศูนย์เหรียญเอาเปรียบผู้ประกอบการไทยและต้องดูระบบการสั่งจองที่ไทยเสียประโยชน์ จึงต้องพยายามพัฒนาการท่องเที่ยวของเรามุ่งสู่ประเทศที่มีศักยภาพ
นายสรวงศ์กล่าวอีกว่า ตำรวจท่องเที่ยวและกรมการท่องเที่ยวได้วางมาตรการอย่างชัดเจน มีการจับกุมและสั่งปิดบริษัททัวร์ไปแล้วกว่า 40 บริษัท หากผู้ประกอบการมีข้อสงสัยหรือข้อเสนอแนะให้ชี้เป้ามารับปากว่าจะพยายามกำจัดทุนเทาเหล่านี้ให้หมด
ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว นายสรวงศ์มั่นใจว่ามาตรการที่ออกมา ทำให้ผู้ประกอบการเข้าใจมาตรการที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือเฉพาะหน้าเช่น Thailand Winter Festival ที่จะมาถึง ได้มอบสิทธิประโยชน์ให้นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ได้รับผลกระทบจากผู้ประสบอุทกภัย รัฐบาลได้ออกมาตรการช่วย เช่น ยืดระยะเวลาการจ่ายภาษี และออก Soft Loan ให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น
“ส่วนเรื่องการลดการทุจริตคอรัปชัน ผมมั่นใจอย่างหนึ่งว่าในรุ่นของผมที่นั่งอยู่เป็นเจ้ากระทรวงจะพยายามอย่างยิ่งที่จะให้ประชาชน และผู้ประกอบการธุรกิจท่งเที่ยวสบายใจ จะพยายามอย่างยิ่งกวดขันไม่ให้มีสิ่งที่สกปรกเกิดขึ้นในกระทรวง โดยหากใครมีเบาะแสสามารถติดต่อมาที่กระทรวง ส่งจดหมายปิดผนึกถึง นายสรวงศ์ เทียนทองได้เลย” นายสรวงศ์ กล่าว.-319 -สำนักข่าวไทย