กทม.เริ่มรื้อถอนบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬ

449ป้อมมหากาฬ 4 มี.ค.-กทม.เริ่มรื้อถอนบ้านในชุมชนป้อมมหากาฬแล้ว หลังติดประกาศเตรียมรื้อถอนบ้าน 10 หลังในชุมชน ขณะเดียวกับพบบ้าน 2 หลัง ยังไม่ยินยอมให้รื้อถอน เตรียมเจรจากับ กทม.ต่อไป


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศภายในชุมชนป้อมมหากาฬ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย หลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลงพื้นที่ตรวจการขนย้ายกองขยะ เคลียร์พื้นที่และเก็บชิ้นส่วนจากการรื้อถอนบ้านในชุมชนช่วงเดือนกันยายน 2559 ขณะที่บริเวณหน้าชุมชนฯ มีการติดตั้งป้ายขนาดใหญ่ มีข้อความระบุว่า “กรุงเทพมหานครจะเข้ารื้อถอนโรงเรือนสิ่งปลูกสร้างและขนย้ายทรัพย์สินสัมภาระจำนวน 10 หลัง ได้แก่ บ้านเลขที่ 61 , 95 , 107/1-3 , 127 , 127/1 , 203 , 187 , 189 , 191 และ 193 ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 6 มีนาคมนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะแล้วเสร็จ และหากผู้ใดจะขอให้กรุงเทพมหานครช่วยเหลือในการรื้อย้ายหรือจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่เพิ่มเติม ให้แจ้งสำนักงานเขตพระนคร หรือกองจัดกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา เพื่ออำนวยความสะดวกต่อไป”

อย่างไรก็ตาม พบว่ามีบ้าน 2 หลัง ได้แก่ บ้านเลขที่ 127 และ 127/1 ผู้อาศัยไม่ยินยอมให้รื้อถอน เนื่องจากบ้านทั้ง 2 หลังอยู่ในข้อเสนอของสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่เสนอในการประชุมคณะอนุกรรมการกรุงรัตนโกสินทร์ว่าด้วยการเก็บรักษาบ้าน เพื่อจัดทำพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิต ทางชุมชนฯ จึงต้องการให้ทางสถาปนิกฯ ได้เข้ามาตรวจสอบก่อน


451นายศักดิ์ชัย บุญมา ผู้อำนวยการกองจัดการกรรมสิทธิ์ สำนักการโยธา (สนย.) กรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า สำหรับบ้านทั้ง 2 หลังนี้ จะยังไม่มีการรื้อถอนในวันจันทร์นี้ (6 มี.ค.) เนื่องจากจะต้องเชิญตัวแทนชุมชนมาเจรจาพูดคุยเพื่อหาทางออกต่อไป แต่เบื้องต้นทราบมาว่าผู้อาศัยยินยอมจะย้ายออก และเตรียมขนของในวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) แต่ทางชุมชนฯ ต้องการให้ทางสถาปนิกฯ ได้ตรวจสอบบ้านทั้ง 2 หลังก่อน ดังนั้นจึงต้องมีการเจรจากันให้ชัดเจน สำหรับการเก็บชิ้นส่วนขยะในวันนี้ (4 มี.ค.) กรุงเทพมหานครได้รื้อถอนบ้านเลขที่ 203 เสร็จเรียบร้อยไปแล้ว 1 หลัง และในวันพรุ่งนี้ (5 มี.ค.) ทางกรุงเทพมหานครจะเริ่มรื้อถอนบ้านในชุมชน 4 หลัง ได้แก่ บ้านเลขที่ 61 , 95 , 107/1-3 และบ้านไม่มีเลขที่ ซึ่งเป็นบ้านบุกรุกใหม่อีกหนึ่งหลัง

ขณะที่บรรยากาศการเก็บชิ้นส่วนขยะและรื้อถอนบ้านบางส่วนในชุมชนป้อมมหากาฬ เป็นไปด้วยความราบรื่น ไม่พบเหตุรุนแรงหรือการขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ผู้อยู่อาศัยหรือผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าไปภายในชุมชนที่ยังไม่ได้มีการรื้อถอน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง