กทม. 21 มิ.ย. – กองปราบปราม เปิดปฏิบัติการ “เปิดทะเลหมอก” ทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ใช้สถานที่ท่องเที่ยวชื่อดัง “บ้านรักไทย” จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นฐานกระทำความผิด จับกุมผู้ต้องหา 3 สัญชาติ รวม 53 คน
ตำรวจกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม ได้รับเเจ้งเบาะเเสว่า มีกลุ่มคนต่างด้าวจำนวนมาก คาดว่าน่าจะหลบหนีเข้าประเทศโดยผิดกฎหมายมาพักอาศัยกระจายอยู่ในรีสอร์ทต่าง ๆ ในพื้นที่หมู่บ้านรักษ์ไทย อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยจับกลุ่มมั่วสุมทำกิจกรรมน่าสงสัย ก่อความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ ประกอบกับมีความกังวลเรื่องการลักลอบเข้าเมืองโดยไม่ผ่านการคัดกรองเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเหตุให้คนในพื้นที่เกรงว่าอาจจะมีการนำพาเชื้อไวรัสโควิดเข้ามาแพร่กระจายให้กับคนในหมู่บ้าน จึงสืบสวนกรณีดังกล่าวโดยละเอียดใช้เวลากว่า 1 เดือน จนทราบว่ากลุ่มคนต่างด้าวต้องสงสัยมี ประมาณ 60-80 คน ได้ทำการเช่าเหมาทั้งรีสอร์ท โดยห้ามไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าไปในบริเวณรีสอร์ท ดังกล่าว มีการรวมกลุ่มทำกิจกรรมต้องสงสัย คล้ายร่วมกันประกอบอาชีพบางอย่าง มีการประชุมแจกแจงหน้าที่ในการทำงาน และใช้โทรศัพท์ในห้องประชุมพร้อมๆ กันจํานวนหลายคน ลักษณะคล้ายพฤติกรรมของกลุ่มแก๊งคอลเซ็นเตอร์
ทั้งนี้ ยังตรวจสอบพบอีกว่ากลุ่มคนเหล่านี้ มีการว่าจ้างคนในพื้นที่ให้คุ้มครองความปลอดภัย ลักษณะเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติหมายค้นจากศาลเพื่อทำการตรวจค้นเป้าหมาย จำนวน 6 เป้าหมาย สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้ทั้งหมด 53 คน เป็นผู้ต้องหาชาวจีน 40 คน ,ชาวเมียนมา 12 คน และ ชาวฟิลิปปินส์ 1 คนพร้อมตรวจยึดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ, คอมพิวเตอร์, ซิมโทรศัพท์มือถือ, อุปกรณ์สำหรับปลอมหนังสือเดินทางของจีน และสิ่งของซึ่งได้ใช้ หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด รวมกว่า 500 รายการ
ดำเนินคดีผู้ต้องหาฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” เบื้องต้นจากการสืบสวนทราบว่า กลุ่มผู้ต้องหาได้นำคนจีนหลบหนีเข้ามามทางพรมแดนธรรมชาติ และรวมตัวกันสร้างกลุ่มเพื่อหลอกลวงเหยื่อซึ่งเป็นคนจีน โดยการสร้างโปรไฟล์ปลอมขึ้นมา หลอกให้เหยื่อหลงเชื่อว่าเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยจากการลงทุนในสกุลเงินดิจิตอล สร้างความน่าเชื่อถือ และพูดคุย ชักชวนเหยื่อให้ร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิตอลผ่านแอพพลิเคชั่นที่กลุ่มผู้ต้องหาสร้างขึ้นมาเอง.-สำนักข่าวไทย