“ภูมิธรรม​” ลั่นไร้ประโยชน์​ทับซ้อน ปราบแก๊งคอลฯ

กองทัพไทย 21 มี.ค.- “ภูมิธรรม​” เอาเกียรติยศเป็นประกัน​ ไร้ประโยชน์​ทับซ้อน ปราบคอลเซ็นเตอร์​ หลังชื่อบุตรรัฐมนตรีรายหนึ่งโผล่​ถือหุ้น​ ยังไม่ผ่อนปรนยาแรงเมียนมา ยื้อ​ประกาศ​ 5 อำเภอ​ จ.ตาก​ พื้นที่พิเศษ​ หวั่นกระทบเศรษฐกิจ​


นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลภายหลังการประชุมคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยคุกคามที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในพื้นที่ชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน หรือ คกก.ปชด.​ว่า​ จากการประชุมในวันนี้ยังไม่มีการผ่อนปรนมาตรการตัดไฟฟ้า​ อินเตอร์เน็ตและน้ำมันประเทศเมียนมา เนื่องจากประเมินแล้วว่า จะส่งผลต่อการแก้ไขปัญหาดังกล่าว จึงยังต้องคงเอาไว้ อีกทั้งผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง คือผู้ที่ก่ออาชญากรรมข้ามชาติ อีกทั้งบางพื้นที่ยังพบว่ายังมีการหลอกลวงอยู่ ก็น่าจะมีขบวนการอยู่ภายใน นอกจากนี้ขบวนการคอลเซ็นเตอร์​ ยังมีการย้าย ฐานจากเมียวดี​ ประเทศเมียนมา ไปยังฐานฝั่งประเทศกัมพูชาและเวียดนาม​

โดยนายภูมิธรรม ยืนยันว่า จะเดินหน้าปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์​ ไม่หยุดแน่นอน อย่างที่นายกรัฐมนตรี​ ระบุไว้​ “ไม่จบไม่เลิก” อีกทั้งยังได้มีการพูดคุยกับทางกัมพูชา โดยได้ทำหนังสือถึง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของกัมพูชา เพื่อให้การประสานงานดีขึ้น ขณะที่ประเทศลาว​ด้วย ในส่วนของคิงโรมัน ได้ทราบว่ามีการย้ายฐานไปบ้างแล้ว ก็จะเร่งแก้ไขปัญหาต่อไป​


นายภูมิธรรม​ ยังระบุอีกว่า​ ได้มีการตั้งทีมกฎหมาย เพื่อดูแลเรื่องนี้โดยเฉพาะ ซึ่งวันนี้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องได้รับทราบถึงโครงสร้าง และระบบประสานงานที่ชัดเจน โดยมีพลเอกทรงวิทย์​ หนุนภักดีผู้บัญชาการทหารสูงสุด​ หรือ​ ผบ.ทสส.​เป็นผู้บัญชาการ​

ส่วนข้อเสนอที่จะประกาศ 5 อำเภอจังหวัดตากเป็นพื้นที่พิเศษ​ นายภูมิธรรม​ ระบุว่า​ ได้มอบหมายให้ไปหารือกันเพราะสิ่งที่สำคัญ แม้จะยึดหลักความมั่นคง แต่มีผลกระทบทางเศรษฐกิจค่อนข้างมาก ก็ต้องไปหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้องว่ามีความเป็นไปได้ในระดับใด​ หรือมีผลกระทบมากน้อยเพียงใด​ ในขณะที่ฝั่งผู้ประกอบการก็ยังไม่มีปัญหาอะไร วันนี้เป็นการตัดสินใจที่คำนึงเรื่องหลักมนุษยธรรมและความมั่นคง รวมไปถึงเศรษฐกิจของประเทศ เราพยายามประสานงานและหาจุดที่พอดี ซึ่งขณะนี้ยังไม่ยืดหยุ่นและยังคงมาตรการเข้มงวดต่อไป

เมื่อถามว่า จะแก้ไขปัญหาระยะยาวอย่างไร เนื่องจากที่ทำอยู่เป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า นาย​ภูมิธรรม​ ระบุว่า​ การปราบปรามคอลเซ็นเตอร์ต้องอาศัยความร่วมมือประเทศเพื่อนบ้าน ส่วนใดที่เป็นศูนย์กลางหรือเป็นฐานที่มั่น​ ก็ต้องดำเนินการให้เข้มข้น​ อยู่ในความรับผิดชอบของประเทศใด ประเทศนั้นก็ต้องเป็นศูนย์กลางในการปราบปราม​ ซึ่งเราได้มีการพูดคุยในที่ประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมอาเซียนไปแล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่ภูมิภาคนี้ต้องจัดการ


ส่วนปัญหาเรื่องท่าข้ามต่างๆที่กังวลว่าจะมีการลักลอบสิ่งต้องห้าม ส่งให้ขบวนการคอลเซ็นเตอร์นั้น นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า​ ได้มีการพูดคุยกันว่าจะดำเนินการในระดับใด อยากให้การเคลื่อนย้าย การขนส่ง บริเวณสะพาน มิตรภาพไทย​- เมียนมา​ แห่งที่ 2 ในขณะที่ท่าข้ามจะใช้ควบคุมการขับเคลื่อนของคน​

ส่วนกรณีข้อเสนอการสร้างแนวกำแพงกั้นบริเวณแนวชายแดน​ อำเภออรัญประเทศจังหวัดสระแก้ว นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า​ ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะมีทั้งเสียงสนับสนุนและโต้แย้ง อยู่ระหว่างการประเมิน​

โดยนายภูมิธรรม ยังย้ำว่ามาตรการการปราบปรามขบวนการคอลเซ็นเตอร์​ ของเรามีความเข้มข้น เพียงแต่พวกเราไม่มั่นใจกันเอง

เมื่อถามว่ามีข้อกังขาว่าลูกชาย รัฐมนตรีรายหนึ่ง ถือหุ้นบริษัทอยู่ในเมียนมาอาจส่งผลต่อการออกมาตรการออกไทย นายภูมิธรรม​ กล่าวว่า​ ให้เอาชื่อมา แล้วไปดูความเกี่ยวพัน ตนอยากแก้ไขปัญหาตามความเป็นจริง อย่าจินตนาการ หลายเรื่องที่พูดมาบางครั้งก็จินตนาการ ยืนยันว่าไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างแน่นอน ด้วยเกียรติยศของตน-313 .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ