“รักชนก” บอกนายกฯ เกรงใจทุนเทา จนแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้

รัฐสภา 25 มี.ค.- “รักชนก” บอกนายกฯ เกรงใจทุนเทา จนแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ไม่ได้ ทวงถามความคืบหน้า พ.ร.ก.ร่วมรับผิดชอบ บอกถ้า “ประเสริฐ” นั่ง รมว.ดีอี มา 2 ปีแล้วงานไม่คืบ ก็ควรปรับออก

นางสาวรักชนก ศรีนอก สส.กทม.พรรคประชาชน อภิปรายถึงปัญหาอาชญากรรมทางไซเบอร์ ที่ยังมีความจำเป็นจะต้องถูกทำลาย ทั้งทุนต่างชาติสีเทาและทุนไทยเทา ซึ่งร่วมมือกันบ่อนทำลายประเทศ โดยปัญหานี้เกิดจากการที่นายกรัฐมนตรีจงใจ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่เพื่อเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง และกลุ่มทุน จงใจปล่อยให้เกิดการทจริตในระบบราชการ มองการคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นจนทุกวันนี้ ก็ยังไม่มีแนวทางการจัดการ ว่าปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะจบลงอย่างไร


นางสาวรักชนก ย้ำว่า ความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น เกิดจากการที่เรามีนายกรัฐมนตรี ชื่อแพทองธาร ชินวัตร ทั้งๆ ที่ประเทศควรจะได้ตัวเลือกที่ดีกว่านี้ โดยความล้มเหลวในการบริหารราชการแผ่นดิน สะท้อนผ่านสถิติและตัวเลข ที่ปรากฏจากมูลค่าความเสียหายการหลอกลวงของแก็งสแกมเมอร์ และคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งข้อมูลใน 3-4 ที่ผ่านมานั้น คือ 80,000 ล้านบาท และตัวเลขนี้ก็อาจจะไม่ได้สะท้อนถึงความเสียหายที่แท้จริง เพราะยังคงมีคนที่ไม่ได้เข้ามาแจ้งข้อมูลด้วย ซึ่งอาจทำให้มูลค่าสูงถึงปีละ 100,000 ล้านบาท

ทั้งที่รัฐบาลเพื่อไทยเคยตั้งเป้าหมายอยากขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยอยากให้ประเทศเราเป็นฮับการท่องเที่ยว ดิจิทัล การบิน ขนส่ง แต่ตอนนี้สิ่งที่เราได้คือฮับของคนที่ทำทีว่า เป็นนักท่องเที่ยว แต่ที่จริงแล้ว เข้ามาทำธุรกิจสีเทา ซึ่งส่งผลกระทบต่อความไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลง ขนาดนายกรัฐมนตรีเองก็เคยเจอปัญหาเรื่องนี้เองกับตัวแล้ว


“นายกฯ พูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยว่า เกือบหลงเชื่อ พร้อมเล่าเหตุการณ์ต่างๆ เหมือนเป็นประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น เป็นอีเวนท์ชีวิตที่เอามาเล่าสนุกได้ แต่ถ้านายกฯ ลองคิดสักนิดว่า สิ่งที่ตัวเองเจอสะท้อนอะไร จะพบว่า คนที่ถูกห้อมล้อมด้วยการรักษาความปลอดภัยระดับนี้ มิจฉาชีพยังติดต่อได้ การปลอมเป็นผู้นำมาหลอก แปลว่าเขารู้ว่าเขากำลังคุยกับใคร ต้องค้นหาต้นตอว่าข้อมูลหลุดมาจากแหล่งไหน ถ้าเข้าถึงได้แม้กระทั่งนายกฯ ยังเกือบไม่รอด แล้วตาสีตาสาผู้เฒ่าผู้แก่ประชาชนธรรมดาที่ไม่ทันเกม ไม่ทันเทคโนโลยี พวกเขาจะเหลือหรือ“

นางสาวรักชนก กล่าวอีกว่า สิ่งที่ประชาชนอยากรู้คือขั้นตอนการแก้ไขปัญหา ไม่ได้อยากรู้ว่านายกรัฐมนตรีมีความตื่นเต้นต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากแค่ไหน เพราะถ้าเป็นนายกรัฐมนตรีแล้วทำได้แค่นี้ เราไม่ต้องมีนายกรัฐมนตรีก็ได้

นางสาวรักชนก กล่าวถึงต้นน้ำของแก็งคอลเซ็นเตอร์อีกว่า การดำรงอยู่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น ต้องอาศัยทรัพยากรจากไทยในการเกื้อหนุน ไม่ว่าจะเป็นไฟฟ้า อินเทอร์เน็ต อิฐหินปูนดิน น้ำมัน และคน ซึ่งในแต่ละกระบวนการ นายกรัฐมนตรีเอง เป็นคนที่มีอำนาจสั่งการสูงสุด แต่กลับปล่อยปละละเลยจนเละตุ้มเป๊ะไปหมด ซึ่งขณะนี้ยังมีถึง 18 จุดในชายแดน 3 ประเทศ ที่ยังคงใช้งานได้อยู่ จากนั้นได้ไล่เรียงเหตุการณ์ตัดไฟ ซึ่งมีรองนายกฯรัฐมนตรีสองคนเกี่ยวกันไปกันมาเป็นปี และตัวนายกรัฐมนตรีเองก็แทบจะไม่พูดถึงเรื่องนี้เลย จนกระทั่งผู้ช่วยของรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีนเดินทางมา จึงมีการดำเนินการ ทำให้สถานการณ์นี้ กลายเป็นสิ่งน่าเศร้า เนื่องจากต้องไปหวังว่า ทางการจีนจะกดดันให้รัฐบาลไทยมาทำหน้าที่ของตัวเองหรือไม่


นางสาวรักชนก ยังกล่าวถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปจีน ซึ่งเดินทางไปก่อนหน้านั้น 1 วัน ตนเชื่อเหลือเกินว่า ถ้าไม่ต้องมีการไปพบประธานาธิบดีจีน การตัดไฟโดยรัฐบาลไทย จะไม่มีทางเกิดขึ้น เพราะภายหลังจากกลับมา นายกรัฐมนตรีระบุแค่ว่า ประธานประธานาธิบดีจีน ชอบกินทุเรียน และเรากำลังจะได้แพนด้าสองตัว

อย่างไรก็ตาม การตัดไฟเป็นเพียงก้าวแรก เพราะมีการตัดไปแค่ 5-6 จุด จากจำนวนทั้งหมด และจุดที่ตัดไปนั้น ก็มีเพียงแค่ฝั่งเมียนมา แต่ฝั่งที่มีการหลอกคนไทยเป็นหลักคือฝั่งกัมพูชา และน่าแปลกใจมากว่า การจัดการฝั่งกัมพูชา ควรจะง่ายกว่าจุดอื่นๆ เพราะดูเหมือนบุพการีของนายกประเทศไทย กับบุพการีของนายกกัมพูชา จะใกล้ชิดสนิทสนมกันเหลือเกิน ขนาดว่าออกจากชั้น 14 มาวันแรก ก็มาเยี่ยมก่อนใคร

”คุณทักษิณออกมาบอกเองว่า ลูกก็สนิทกัน พ่อก็สนิทกัน แล้วคนไทยได้อะไร สนิทกันแล้วประเทศไทยเราได้อะไรบ้าง เขาเคยอำนวยความสะดวกให้เราบ้างไหม ในพื้นที่ที่เป็นตึกสแกมเมอร์สร้างใหม่ล้ำสันปันน้ำประเทศไทยเราด้วยซ้ำ และกลายเป็นว่าความร่วมมือที่เราได้จากฝั่งกัมพูชามีน้อยมาก นายกฯ อย่าทำให้คนเขานินทาว่า ปราบเมียนมาอย่างหนัก แต่ไม่ทำอะไรที่ฝั่งกัมพูชาเลย เพราะนายกฯ เกรงใจเพื่อนสนิทพ่อ แต่เขาไม่เคยเกรงใจอะไรเราเลย”

นางสาวรัชนก กล่าวถึงกรณีท่าข้ามว่า จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่มีใครออกมาบอกว่า คนที่ต้องเป็นผู้ตัดสินใจคือใคร โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดตาก ที่มีความมั่นคงแข็งแรง และยั่งยืนยงขนาดนี้ ไม่ได้ถูกสร้างด้วยไม้ ซีเมนต์ หรือคอนกรีตเสริมเหล็ก แต่ถูกสร้างด้วยเงินจากส่วยที่โปะเข้าไป เพื่อปิดหู ปิดตา ปิดปากเจ้าหน้าที่รัฐ ให้มองไม่เห็นสิ่งผิดกฎหมายจึงยังอยู่ได้จนจนถึงทุกวันนี้ เป็นเคล็ดลับที่ทำให้ตำรวจที่เส้นสายดีๆ ใครๆ ก็อยากไปทำงานที่แม่สอด

และตนขอตั้งคำถามว่า เครื่องบินที่บินไปแม่สอด ทั้งลำเป็นคนจีนหมดเลย ไปทำอะไรกัน เพราะการท่องเที่ยวในแม่สอด ก็ไม่ได้บูมขนาดนั้น แถมเมื่อไปถึงแล้ว ยังข้ามไปที่ประเทศเมียนมาไม่ได้ เพราะด่านผ่านแดนที่ถูกกฎหมาย อนุญาตให้เฉพาะคนไทยและเมียนมาเท่านั้น ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่เราจะต้องมีมาตรการในการจำกัดพื้นที่ฟรีวีซ่า โดยการห้ามนักท่องเที่ยวเข้าจังหวัดที่มีความเสี่ยง อย่างพื้นที่ชายแดนที่มีปัญหาคอลเซ็นเตอร์แบบนี้ ซึ่งต้องมารอดูกันว่า สุดท้ายนายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดในเวลาอีกกี่เดือน

นางสาวรัชนก ยังกล่าวถึงปัญหาการค้ามนุษย์ว่า มีคนจำนวนมาก กลายเป็นแรงงานทาส ป้อนเข้าไปอยู่ในกระบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยเน้นย้ำว่า กระบวนการทั้งหมดที่กล่าวมานี้ แค่เริ่มก้าวแรกที่ต้นน้ำ ก็ยังยากลำบาก หากเรามีนายกรัฐมนตรีที่ไม่รู้ว่าตัวเองต้องทำอะไร

ปัญหากลางน้ำต่อมา คือการจัดการการเข้าถึงตัวเหยื่อ อย่างเช่นกรณีซิมม้า ซึ่งมักมีการจ้างคนมาลงทะเบียน โดยค่ายมือถือเองก็รู้ว่า แก๊งคอลเซ็นเตอร์มีวิธีการหาซิมม้าแบบไหน แต่นั่นไม่ใช่หน้าที่ที่เขาต้องมาพิทักษ์ผลประโยชน์ของประชาชน พร้อมตั้งคำถามว่า แม้จะมีข่าวจับซิมเถื่อนให้เห็นอยู่เนืองๆ แต่มีแนวโน้มจะลดลงหรือไม่ เพราะจับไปค่ายมือถือก็ออกซิมใหม่มาขาย จับไปเยอะๆ ก็ดี เขาจะได้ยิ่งขายซิมใหม่ ยิ่งมีกำไรเพิ่ม และพระราชกำหนดที่จะให้ค่ายมือถือร่วมรับผิดชอบอยู่ที่ไหน ตอนนี้ค่ายมือถือเอง ยังมีการเพิ่มแพ็คเกจประกันภัยไซเบอร์แล้ว กลายเป็นนวัตกรรมใหม่ ที่เกิดจากความล้มเหลวของรัฐบาลอย่างแท้จริง ตลอดจนกรณีบัญชีม้า ซึ่งยังไม่มีการสั่งขยายผลสาวไปถึงตัวใหญ่ และตรวจไปที่คริปโตแต่อย่างใด เนื่องจากเรารู้กันอยู่แล้วว่า การฟอกเงินส่วนใหญ่มักจะฟอกผ่าน P2P จึงทำให้คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้ว่าการที่ไม่จัดการปัญหานี้ นอกจากจะจงใจไม่ควบคุม ปล่อยให้อะไรเทาๆ อยู่แบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ

จากปัญหาที่กล่าวมาทั้งหมด “ท่านนายกฯ ลองสะกิดท่านประเสริฐหน่อยไหม นั่งแช่เก้าอี้เป็นรัฐมนตรีดีอีมา 2 ปี พรก.ยังไม่คลอด ถ้าพูดกันตามหลัก 2 ปีงานไม่คืบ ต้องปรับออกแล้ว แต่สุดท้ายคงไม่เกิดขึ้น เพราะท่านประเสริฐเป็น โควตาทุนกลุ่มไหน ใครก็รู้”

สิ่งที่สำคัญที่สุดในกระบวนการกลางน้ำ คือเรื่องข้อมูลรั่วไหล ซึ่งเห็นได้ชัดว่า นายกรัฐมนตรีทำให้กระบวนการทุกอย่างติดขัดไปหมด เพราะจะแก้เรื่องไหน ก็ติดประโยชน์ของกลุ่มทุนทั้งนั้น

ปัญหาปลายน้ำ จึงควรมีการปราบปรามทั้งระบบ ไม่ว่าจะเป็นระบบไบโอแมทริกซ์ เพื่อสกัดกั้นอาชญากร การจับกุมไทยเทา ที่อำนวยความสะดวกให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ กวาดล้างออกหมายจับเจ้าของบ่อนการพนัน อย่างหม่องชิดตู ที่เป็นคนสำคัญ รวมถึงตือ คอสโม่ ด้วย ถ้าเรื่องแค่นี้ นายกรัฐมนตรียังทำไม่สำเร็จ ท่านไม่ต้องมีหน้าไปว่าใครเรื่องภาวะผู้นำเลย ว่าต้องมีภาวะผู้นำก่อน ถึงค่อยมาว่าคนอื่น เพราะตัวนายกรัฐมนตรีเองก็ไม่มี

ดังนั้น หากรัฐบาลไม่แก้ไขปัญหาที่ต้นตอแบบถอนรากถอนโคน ไม่กล้าแตะต้องผลประโยชน์ของกลุ่มทุน เพราะไม่ว่าจะทุนกลุ่มไหน ก็เคยร่วมโต๊ะอาหารกับพ่อนายกรัฐมนตรีทั้งนั้น ไม่กล้าจัดการไทยเทา เพราะจะหันไปทางไหน ก็เป็นลูกของใครสักคนของพ่อนายกฯ แม้กระทั่งระบบปกป้องประเทศ ก็ไม่อนุญาตให้จัดทำ การคอร์รัปชั่นที่มีในทุกระดับ แต่นายกฯ ทำเป็นมองไม่เห็น ทำให้ประเทศเรากลายเป็นดินแดนสวรรค์ของมิจฉาชีพ ที่ปัญหาทุกอย่างติดขัดทุกส่วนเช่นนี้ แน่นอนว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะแพทองธาร ชินวัตร ที่ไร้ความสามารถ”.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผู้โดยสารรถทัวร์สยอง นั่งร่วมกับศพจากโคราชถึงลำปาง

ลำปาง 17 มิ.ย. – ไม่รู้นั่งมากับศพทั้งคืน ผู้โดยสารรถทัวร์สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ ถึงขนส่งลำปาง ผวาทั้งคัน หลังรถเข้าจอดชานชาลาพบหนุ่มวัย 38 ปี เสียชีวิต ตรวจสอบเบื้องต้นพบขามีรอยช้ำ เลือดไหล แพทย์คาดเสียชีวิตจากโรคประจำตัว ช่วง 05.30 น. วานนี้ (16 มิ.ย.) ตำรวจ สภ.เมืองลำปาง แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลลำปาง เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างลำปาง รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตบนรถทัวร์โดยสาร สายนครราชสีมา-เชียงใหม่ จอดอยู่บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดลำปาง เทศบาลนครลำปาง ผู้เสียชีวิตเป็นชายอายุ 38 ปี ชาว ต.พิชัย อ.เมืองลำปาง นั่งมากับรถทัวร์โดยสารปรับอากาศ 2 ชั้น ผู้เสียชีวิตนั่งอยู่ชั้น 2 ฝั่งซ้ายโซนด้านหลัง ซึ่งเป็นที่นั่งเดียว ขึ้นรถต้นทางจาก จ.นครราชสีมา ปลายทาง จ.ลำปาง โดยรถเข้าจอดที่ชานชาลา เจ้าหน้าที่ของบริษัททัวร์ได้เชิญผู้โดยสารทั้งหมดลงมาจากรถ จากนั้นแพทย์เวรโรงพยาบาล เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมชันสูตรศพ ทำเอาผู้โดยสารที่นั่งมาในรถคันเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ที่นั่งด้านหน้าและหลัง ถึงกับสยอง […]

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย

ครูสาวเขียนจดหมายระบายความอัดอั้น ก่อนคิดสั้น-ศธ.สั่งสอบข้อเท็จจริง

บุรีรัมย์ 17 มิ.ย. – ครูสาวโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ เขียนจดหมายระบายความอัดอั้น “งานครูหนักและเครียดมากจนทนไม่ไหว” ก่อนตัดสินใจคิดสั้น ด้าน ศธ. สั่งสอบข้อเท็จจริง ยอมรับครูรับภาระหนัก ตำรวจพร้อมกู้ภัยได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิตในบ้านหลังหนึ่ง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ พบร่างของครูมัท วัย 39 ปี ครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ โดยครูตัดสินใจลาโลกด้วยตัวเอง ข้างร่างของครูมีจดหมายลาที่เขียนถึง 5 หน้ากระดาษ หน้าซองจดหมายเขียนไว้ว่า “จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน” เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยหน้าที่ 1-4 ผู้ตายเขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่ ส่วนหน้าที่ 5 เขียนถึงการทำงาน ถึงสาเหตุที่ลาโลกใบนี้ เพราะไม่สบายกายและไม่สบายใจ มีปัญหาเรื่องการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นเพราะครูมัทเพียงคนเดียว เกิดจากกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน ทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง สุดท้ายนิ่งเฉย ไม่มีใครมาเคลียร์ให้ อันไหนเคลียร์เองได้ก็ดีไป แต่อันไหนเคลียร์ไม่ได้ก็ต้องมานั่งเครียดเองจนหัวจะระเบิด เป็นไมเกรนแทบทุกวัน […]

สาวโพสต์ถูกไฟดูดจากตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดัง

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – สาวโพสต์ถูกไฟตู้กดบัตรจอดรถอัตโนมัติห้างดังดูดมือ ต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาลหลายวัน ทำงานไม่ได้ กินข้าวไม่ได้ ชีวิตพัง ห้างโยนภาระให้เดินเอกสารเบิกกับโรงพยาบาลเอง สาวโพสต์ภาพพร้อมเล่าเรื่องราวเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา กำลังขับรถเข้าลานจอดรถห้างฯ แห่งหนึ่ง แล้วลดกระจกเอามือโบกระบบเซ็นเซอร์เพื่อรับบัตรจอด ปรากฏว่าถูกไฟดูดทั้งที่มือไม่ได้แตะโดนเครื่อง เพราะระบบเซ็นเซอร์ไม่ต้องสัมผัสโดน แค่โบกหน้าเครื่อง ตนเองรู้สึกไฟดูด แขนชา จี๊ดขึ้นหัว และชาลงไปถึงขา บัตรก็ไหลออกมาจากเครื่อง แต่ไม้กั้นรถไม่เปิด คาดว่าไฟฟ้าในเครื่องน่าจะขัดข้อง และไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่บริเวณนั้นเลย จะกดปุ่ม SOS ขอความช่วยเหลือที่ตัวเครื่องก็ไม่กล้า เพราะกลัวถูกไฟดูดรอบ 2 จึงพยายามบีบแตรเรียกหลายครั้งกว่าจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาหา พอเจ้าหน้าที่มาตนก็บอกว่าถูกไฟดูด แต่เจ้าหน้าที่มาเปิดไม้กั้นให้และไม่พูดอะไรต่อ เลยรีบเอารถเข้าไปในลานจอด จากนั้นรีบเดินไปที่จุดบริการลูกค้า เพื่อขอความช่วยเหลือ เพราะตอนนั้นชาไปครึ่งตัว เจ้าหน้าที่พาไปห้องพยาบาล เอาเจลเย็นมาประคบอยู่นานก็ไม่รู้สึกดีขึ้น แขนเริ่มไม่มีแรงยก เจ้าหน้าที่เห็นอาการหนักเลยพาไปโรงพยาบาลที่มีสัญญากับห้าง หมอตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับตรวจเลือดแล้วค่าปกติดี หมอสั่งยาและให้กลับบ้าน ทั้งที่ยังไม่หายชา ถึงขนาดแขนไม่มีแรงแม้แต่จะเซ็นเอกสาร หมอบอกว่าคุณไม่เคยข้อศอกกระแทกโต๊ะเหรอ ชาๆ เหมือนกัน เดี๋ยวก็หายเอง ตนเองจึงตั้งคำถามว่าจะหายเองจริงเหรอ เพราะยังทำอะไรไม่ได้เลย ตอนกลางคืนลองยกแขนนิ้วยังสั่นอยู่เลย กินยาคลายกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรดีขึ้น […]

ข่าวแนะนำ

“ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงฉบับเต็ม 17 นาที

กัมพูชา 18 มิ.ย. – “ฮุน เซน” ปล่อยแล้ว คลิปเสียงคุย “แพทองธาร” ฉบับเต็ม 17 นาที เผยบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส ส่งต่อให้บุคคลอื่นราว 80 คน เว็บไซต์ขแมร์ ไทม์ส รายงานว่า “นายฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชาเปิดเผยผ่านสื่อโซเชียล มีเนื้อหาระบุว่า “เมื่อเย็นวันที่ 15 มิถุนายน ผมได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีของไทยเป็นเวลา 17 นาที 6 วินาที โดยมีนายเคลียง ฮวต รองผู้ว่าราชการกรุงพนมเปญ ทำหน้าที่ล่ามแปลภาษา ซึ่งตามปกติแล้วเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าใจที่คลาดเคลื่อนหรือตีความหมายผิดในเรื่องที่เป็นทางการ จึงจำเป็นต้องทำการบันทึกเสียงสนทนาเพื่อความโปร่งใส รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ภายในของกัมพูชาด้วย และจากนั้นเป็นต้นมา ตนเอง ก็ได้แชร์เทปเสียงสนทนานี้ให้กับบุคคลอื่นๆ ราว 80 คน ที่รวมถึงสมาชิกคณะกรรมการถาวรของพรรค คณะทำงานวุฒิสภา หน่วยงานเฉพาะกิจด้านการต่างประเทศ หน่วยงานด้านการศึกษาและการเข้าถึงกลุ่มกิจการชายแดน และสมาชิกกองกำลังติดอาวุธ ซึ่งในจำนวนคนเหล่านี้อาจมีความเป็นไปได้ที่จะมีบางคนที่ไม่พอใจนายกรัฐมนตรีของไทย ฮุน เซนโพสต์ต่อว่า “แต่หลังจากการสนทนาผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง ผู้นำไทยกลับออกมากล่าวหาผู้นำกัมพูชาอย่างเปิดเผยว่าทำงานการเมืองอย่างไม่เป็นมืออาชีพ และขับเคลื่อนประเด็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก […]

มทภ.2 ไม่ติดใจนายกฯ ปมคลิปเสียง ขอทำเพื่อชาติ-ปชช.

อีสาน 18 มิ.ย.- “พล.ท.บุญสิน” มทภ.2 ไม่ติดใจ “นายกฯ อิ๊งค์” ปมคลิปเสียง ขอทำงานเพื่อชาติ-ประชาชน พร้อมเดินทางเยี่ยมลูกน้องบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้โทรมาปรับความเข้าใจ พร้อมทั้งอธิบายเนื้อหาในการสนทนากับสมเด็จฮุน เซน เพื่อต้องการให้สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา เบาบางลง เป็นการพูดคุยกันหลังบ้าน โดยตนได้บอกกับนายกฯ ไปว่า “ผมไม่มีอะไรครับ ผมเข้าใจ” ทั้งนี้ นายกฯ ได้ขอบคุณที่เข้าใจ ถือว่าคุยแล้วเข้าใจแล้ว ก็ไม่ติดใจอะไร ตนทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของพี่น้องประชาชน พล.ท.บุญสิน ยังระบุต่อว่า วันนี้กำลังเดินทางไปเยี่ยมผู้ใต้บังคับบัญชาที่ได้รับบาดเจ็บจากภารกิจชายแดน ตนทำงานตามปกติ ไม่มีอะไร.-313.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” บอก “จบแล้วครับนาย” ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู

กทม. 18 มิ.ย.-“อนุทิน” สั่ง จนท.ขนของออกจากกระทรวง บอก “จบแล้วครับนาย” ไม่ต้องคุยนายกฯ หลัง “หมอมิ้ง” ยื่นไพ่ใบสุดท้าย ขออย่าปรามาส จะเป็นฝ่ายค้านให้ดู เตรียมซ้อมกับ “ไอซ์ รักชนก” เวลา 13.35 น. วันที่ 18 มิ.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังนายกฯ ระบุว่ายังไม่แจ้งเงื่อนไขการปรับ ครม. ว่า ตนยังไม่ได้ยิน ซึ่งเมื่อวานนี้ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกฯ ซึ่งเราก็บอกท่าทีเราไปแล้ว เมื่อถามว่า การขนของออกจากห้องทำงาน ถือเป็นการปิดประตูเจรจาหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ได้คุยกับ นพ.พรหมินทร์ ชัดเจนแล้วว่า เราคงไม่ได้เปลี่ยนอะไร และ นพ.พรหมินทร์ ได้ย้ำเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทยว่าเป็นแบบนี้ เมื่อถามต่อว่า ต้องคุยกับนายกฯ อีกครั้งหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ตนยังไม่ได้คุยกับนายกฯ และเมื่อวาน […]

นายกฯ รับคลิปเสียงจริง ซัด “ฮุนเซน” ปล่อยหวังรัฐบาล-กองทัพแตกแยก

ทำเนียบ 18 มิ.ย.- นายกฯ รับคลิปเสียงคุย “ฮุนเซน” เป็นของจริง แจงปมบอกแม่ทัพภาคที่ 2 เป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเทคนิคการเจรจาต่อรองสร้างสันติภาพ หลัง “ฮุนเซน” โกรธ ชี้จุดประสงค์หวังสร้างคะแนนนิยมรัฐบาลกัมพูชาที่ไม่สนความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ รับไม่ไว้ใจ จากนี้ไม่ขอคุยส่วนตัว ปัดตอบสัมพันธ์ 2 ตระกูล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงด่วนกรณีมีคลิปเสียงสนทนาระหว่างที่พูดคุยกับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยแพร่ออกมาผ่านโซเชียลมีเดีย โดยยอมรับว่าเป็นคลิปจริง เป็นการคุยกันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ซึ่งตนได้ทราบข้อมูลจากล่ามที่แปลว่า ทางสมเด็จฮุน เซน โกรธแม่ทัพภาคที่ 2 ที่มีการพูดกันก่อนหน้านั้น เมื่อได้คุยกัน ตนจึงบอกว่า แม่ทัพภาคที่ 2 พูดกันแบบนี้ ในเมื่อเราทั้งไทยและกัมพูชาเป็นฝั่งตรงข้ามกันอยู่แล้ว ในตอนนั้นก็ต้องพูดแบบนี้ อย่าไปคิดเลย ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำความเข้าใจ เพราะทางฝั่งสมเด็จฮุน เซน โกรธเรื่องนี้ และเป็นเทคนิคในการพูดหลังไมค์หลังบ้านแบบส่วนตัว ซึ่งการคุยโทรศัพท์ก็ไม่ควรเอามาเปิดเผย เพราะเป็นเทคนิคในการเจรจาพูดคุยต่อรอง ส่วนตัวคิดว่า ตนทำเพราะมีจุดมุ่งหมายและมีประเด็นที่จะรักษาไว้ซึ่งความสงบสุขของบ้านเมืองและรักษาอธิปไตยของไทยไว้ ให้ผลประโยชน์อยู่กับประเทศชาติและประชาชน ตนก็คุยด้วยความซอฟต์และความนุ่มนวล เพราะบางทีเวลาคุยกันส่วนตัวก็เรียกกันลุงหลาน […]