ปัตตานี พบคลัสเตอร์ใหม่ ติดเชื้อแล้ว 15 ราย

ปัตตานี 16 มิ.ย.-ปัตตานี อ่วมซ้ำ พบคลัสเตอร์ใหม่ มีผู้ติดเชื้อแล้ว 15 ราย ขณะคลัสเตอร์โรงงาน มีผู้ติดเชื้อเพิ่ม 21 ราย ยอดสะสมทะลุ 700 ราย

สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง ล่าสุดทางจังหวัดปัตตานี พบคลัสเตอร์แห่งใหม่ อยู่ในเขตอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี ก็คือ แพอรุณ ทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ได้เข้าตรวจเพื่อหาเชื้อคนงานจากทั้งหมด 120 ราย พบผู้ติดเชื้อแล้ว 15 ราย เจ้าหน้าที่รีบนำตัวผู้ติดเชื้อเข้าสู่โรงพยาบาลสนามทันที นอกจากนี้ยังมีผู้เสี่ยงสูงอีก 32 ราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ได้ให้กักตัวภายในโรงงาน พร้อมกับพนักงานที่เหลือ เพื่อเฝ้าดูอาการและตรวจหาเชื้อเป็นระยะ เป็นเวลา 28 วัน


ในขณะที่คลัสเตอร์โรงงานรอยัลฟู้ดส์ สถานการณ์ล่าสุด ยังน่าเป็นห่วง พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีก 21 ราย ทำให้ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อภายในคลัสเตอร์โรงงานแห่งนี้ รวมทั้งหมด 137 รายแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่ยังคงต้องทำงานอย่างหนักในการตรวจหาเชื้อของคนงานที่ยังคงต้องกักตัวภายในโรงงานแห่งนี้ กว่า 400 ราย สำหรับสถานการณ์ยอดผู้ติดเชื้อโดยรวมในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ล่าสุดพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งสิ้น 81 ราย ทำให้ยอดรวมสะสมอยู่ที่ 722 ราย แล้ว

ด้านว่าที่ร้อยตรีตระกูล โทธรรม รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เรียกประชุมด่วนกับคณะทำงานด้านสาธารณสุขจังหวัดปัตตานี ให้เร่งส่งทางเจ้าหน้าที่ทั้ง สาธารณสุขจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และแรงงานจังหวัด ลงพื้นที่ เพื่อให้ความรู้กับโรงงานต่างๆ ที่อยู่ภายในเขตอุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี ให้โรงงานต้องปฏิบัติตามมาตรการการป้องการการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาระยะห่างในการรับประทานหารร่วมกัน ต้องมีการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาในการทำงาน ต้องมีการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ทุกครั้ง ถ้าหากพบว่าโรงงานใดไม่ปฏิบัติตาม ทางจังหวัดจะมีการพิจารณาบทลงโทษอีกครั้ง ในขณะเดียวกันยังได้กำชับให้คลัสเตอร์โรงงาน ซึ่งขณะนี้มี 2 โรงงานแล้ว คือ โรงงานรอยัลฟู้ดส์ และ แพอรุณ ห้ามไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเด็ดขาด และให้พนักงานทุกคนต้องกักตัวภายในโรงงาน เป็นเวลา 28 วัน เพื่อที่จะได้มีการตรวจหาเชื้ออย่างครบถ้วน ส่วนพนักงานที่มีความเสี่ยงต่ำ ก็สามารถที่จะทำงานได้ ภายใต้มาตรการอย่างเคร่งครัด.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์

เร่งล่าฆาตกรโหดตัดนิ้วชิงทรัพย์หญิงวัย 67 ทิ้งศพกลางสวนปาล์ม

ตำรวจเร่งล่าฆาตกรโหดฆ่าตัดนิ้วหญิงวัย 67 ปี ชิงทรัพย์ ก่อนทิ้งศพกลางสวนปาล์ม อ.วังจันทร์ จ.ระยอง ชาวบ้านเผยพบรถเก๋งต้องสงสัยสีขาววิ่งเข้าไปในจุดพบศพ

จับนายก อบต.นาบัว

คอมมานโดบุกจับนายก อบต.นาบัว-พวก รวม 16 คน

คอมมานโดกองปราบฯ บุกจับฟ้าผ่า! นายก อบต.นาบัว อ.นครไทย ประธาน “ธนาคารหมู่บ้าน” พร้อมพวก รวม 16 คน ฐานร่วมกันฉ้อโกงและร่วมกันกู้ยืมเงิน มูลค่าความเสียหายนับร้อยล้านบาท

New Zealanders march towards Wellington to protest Indigenous treaty bill

ชาวเมารีเต้นฮากาประท้วงร่าง กม.นิวซีแลนด์

เวลลิงตัน 15 พ.ย.- ผู้คนในหลายเมืองทั่วนิวซีแลนด์เข้าร่วมการเดินขบวนมุ่งหน้าไปยังกรุงเวลลิงตัน เพื่อประท้วงร่างกฎหมายลิดรอนสิทธิของชนพื้นเมือง โดยมีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารีในระหว่างการประท้วงด้วย รัฐสภานิวซีแลนด์ผ่านความเห็นชอบในเบื้องต้นเมื่อวานนี้ เรื่องการตีความใหม่สนธิสัญญาอายุ 184 ปี ที่มกุฎราชกุมารอังกฤษกับหัวหน้าชาวเมารีมากกว่า 500 คนลงนามในปี พ.ศ.2383 กำหนดเรื่องการปกครองนิวซีแลนด์ร่วมกัน ซึ่งเป็นแนวทางในการออกกฎหมายและนโยบายของประเทศมาจนถึงปัจจุบัน ความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้เกิดการชุมนุมประท้วงตามเมืองต่าง ๆ ทั่วนิวซีแลนด์ โดยมีการจัดเดินขบวนเป็นเวลา 9 วันมุ่งไปยังกรุงเวลลิงตัน คาดว่าขบวนจะถึงเมืองหลวงในวันที่ 19 พฤศจิกายน ตำรวจแถลงวันนี้ว่า มีคนประมาณ 10,000 คน เข้าร่วมการเดินขบวนในเมืองโรโตรัว ห่างจากกรุงเวลลิงตันไปทางเหนือราว 450 กิโลเมตร ผู้ประท้วงแต่งกายในชุดชนพื้นเมือง มีการเต้นฮากาที่เป็นวัฒนธรรมของชาวเมารี โดยได้รับการต้อนรับจากคนจำนวนมากที่มาโบกธงเมารีและร่วมร้องเพลง.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว

เจ๊พัชกฤษอนงค์

นำ “เจ๊พัช” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง

กองปราบหิ้ว “กฤษอนงค์” ฝากขังศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตำรวจค้านประกัน เจ้าตัวสีหน้าเรียบเฉย

พะยูนตาย

ห่วงสถานการณ์พะยูน พบตายถี่จากแหล่งหญ้าทะเลเสื่อมโทรม

“เฉลิมชัย” ห่วงสถานการณ์ “พะยูน” ซึ่งพบตายบ่อยขึ้น สั่งการกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและกรมอุทยานแห่งชาติฯ เฝ้าติดตามปัญหา ดำเนินการตามมาตรการแก้ไขโดยด่วน