สั่งฟ้อง “วิรัช” และพวก ปมทุจริตสนามฟุตซอล

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – อัยการสูงสุดสั่งฟ้อง “วิรัช” กับพวก 84 คน คดีทุจริตสนามฟุตซอล เตรียมยื่นต่อศาลฎีกานักการเมือง ด้าน “วิรัช” เผยเตรียมใจมาแล้ว 2 ปี มั่นใจความบริสุทธิ์ ความยุติธรรมของศาล


นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด ได้พิจารณาข้อไม่สมบูรณ์ใน 7 สำนวนคดีทุจริตงบประมาณก่อสร้างฟุตซอล ที่คณะทำงานร่วมระหว่างคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ข้อสรุปร่วมกัน และมีความเห็นสั่งฟ้องนายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ และผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นบุคลากรทางการศึกษา 84 คน ทุจริตเงินจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ซึ่งก่อนหน้านี้คณะทำงานร่วมเคยมีมติเห็นควรสั่งฟ้องนายวิรัชไปยังอัยการสูงสุด

สำหรับคดีดังกล่าวมี 7 สำนวน สำนวนแรกเป็นของนายวิรัช อัยการสูงสุดได้พิจารณาความเห็น ป.ป.ช. พบข้อไม่สมบูรณ์ จึงต้องตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง ป.ป.ช. และสำนักงานอัยการสูงสุด ต่อมาคณะทำงานได้ข้อสรุปร่วมกันว่า “ควรสั่งฟ้อง” ซึ่งอัยการสูงสุดก็เห็นตามคณะทำงานให้ยื่นฟ้องนายวิรัช


ส่วนสำนวนที่ 2-6 ในคดีทุจริตงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอล จาก ป.ป.ช. ในส่วนของผู้อำนวยการโรงเรียน และบุคลากรทางการศึกษา 84 คน ได้ส่งมาจาก ป.ป.ช. ด้วยเป็นความผิดเดียวกัน จากการตั้งคณะทำงานร่วมกันมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ถูกกว่าหาทั้ง 84 คน โดยฝ่ายอัยการจะใช้ระยะเวลาเพื่อร่างคำฟ้องประมาณ 60 วัน ก่อนจะยื่นต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ด้านนายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่า ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ รู้สึกเฉยๆ ไม่ได้กังวลอะไร กว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้น และไม่ใช่เรื่องใหม่ คาดว่าจะต้องใช้เวลาดำเนินการอีกหลายเดือน

สำหรับการสู้คดี นายวิรัชระบุว่า มั่นใจในความบริสุทธิ์และความยุติธรรมของศาล แต่ไม่เชื่อความยุติธรรมที่ ป.ป.ช. ให้ จึงฟ้องดำเนินดีกับ ป.ป.ช. และเจ้าหน้าที่จำนวน 24 คน ฐานทำหน้าที่โดยทุจริต ซึ่งศาลรับฟ้องไปแล้ว


ส่วนโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอล ทราบเพียงมีโครงการมาลงในพื้นที่ แต่ไม่ทราบรายละเอียด และโครงการดังกล่าวก็มีทั่วประเทศ เชื่อว่าเรื่องนี้เป็นคดีที่มีการเมืองอยู่เบื้องหลังที่เกิดตั้งแต่ปี 2555 จนถึงปัจจุบัน

เมื่อถามว่าจะกระทบต่อการทำงานหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ไม่กระทบกับการทำงานในฐานะประธานวิปรัฐบาล และงานในสภาฯ ยังคงเดินหน้าทำงานต่อ ให้ทำแค่ไหนก็จะทำถึงแค่นั้น เตรียมใจมา 2 ปีแล้ว

สำหรับคดีทุจริตจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษาที่ 2 จ.นครราชสีมา ตามสำนวนการไต่สวนของ ป.ป.ช. ระบุผู้ถูกกล่าวหา ประกอบด้วย ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ข้าราชการระดับสูง และกลุ่มเอกชน มีพฤติการณ์ร่วมกันทุจริตเชิงนโยบาย และเป็นตัวการร่วมกันในลักษณะการแบ่งหน้าที่กันทำ ตามบทบาทตามหน้าที่และอำนาจที่แต่ละคนมี และเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในการกระทำความผิด

กระบวนการทุจริตเริ่มจากขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบประมาณปี พ.ศ. 2555 (งบแปรญัตติ) ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในจังหวัดนครราชสีมา และจังหวัดอื่น รวม 18 จังหวัด วงเงินงบประมาณ 4,459,420,000 บาท ใน 2 โครงการหลัก หนึ่งในนั้นคือ โครงการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอล รวมถึงมีการวางแผนในการทุจริตในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างอีกหลายประการ เพื่อให้กลุ่มเอกชนที่เป็นพรรคพวกของตนเองได้เข้าเป็นคู่สัญญา และการก่อสร้างสนามกีฬาฟุตซอลไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริงตรงตามวัตถุประสงค์.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

นายกฯ ปัดตอบ ผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม.

“นายกฯ อิ๊งค์” ไม่ตอบคำถามผลสำรวจอยากให้ปรับ ครม. บอกพรุ่งนี้ตอบทีเดียว ก่อนแซว “ประเสริฐ” ปรับให้แล้ว เหตุพูดตำแหน่ง “จุลพันธ์” ผิด จาก รมช.คลัง เป็น รมช.มหาดไทย

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]