กทม. 24 ก.ค.- ศาลนัดฟังคำสั่งคดีที่ “แอม ไซยาไนด์” ฟ้อง “รพี” หมิ่นประมาทฯ 5 ก.ย.นี้ หลังวันนี้ไต่สวนมูลฟ้องคดี ทนายความนำภาพ “ก้อย” หนึ่งในผู้เสียชีวิตให้ “แอม” ดูระหว่างเบิกความ แต่ “แอม” อ้างว่าจำไม่ได้ เนื่องจากกินยาเยอะ
ภายหลังจากการไต่สวนมูลฟ้องคดีที่นายรพี ผู้ประสานงานผู้เสียหายญาติผู้เสียชีวิตจากคดีที่นางสรารัตน์ หรือ แอม ยื่นฟ้องฐานหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา จากการนำข้อมูลของตัวเองไปเผยแพร่ในสื่อมวลชนทำให้เกิดความเสียหาย ซึ่งขณะนี้ตกเป็นผู้ต้องหาฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน กรณีที่ต้องสงสัยวางยาไซยาไนด์ ผสมในอาหารและเครื่องดื่ม จนเป็นเหตุพบมีผู้เสียชีวิตต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำของแอม
นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของนายรพี กล่าวว่า วันนี้ศาลได้นัดไต่สวนพยานจำเลยไป 2 คน คือ พ่อ และแม่ ของนางสาวก้อย หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่พบว่าเกี่ยวข้องกับนางสาวแอม โดยในขณะไต่สวน พบว่า แอม มีอาการหวาดกลัว โดยเฉพาะช่วงที่นำภาพถ่ายของนางสาวก้อย มาให้แอมดู โดยอ้างว่าจำภาพของนางสาวก้อยไม่ได้ เป็นผลมาจากรับประทานยามาก และไม่ได้เป็นคนถ่ายภาพที่ทนายนำมาให้ดู
นายเดชา ยังกล่าวว่า ที่ผ่านมาแอมพูดไม่ตรงกับความจริงหลายครั้ง มีการกลับคำให้การไปมา และดูเหมือนจะหวาดกลัวกับการรับความจริง แม้ว่าจะมีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งกล้องวงจรปิด และพยานแวดล้อมที่ตำรวจได้นำมาสอบสวนอยู่ในสำนวนคดี จึงไม่ทราบว่าทำไมแอมถึงคิดต่อสู่คดี โดยคดีนี้ถือว่าไต่สวนเสร็จสิ้นแล้ว ศาลได้นัดฟังคำสั่ง หรือคำพิพากษาในวันที่ 5 กันยายนนี้ เวลา 09.00 น.
ส่วนการที่จะขอเป็นโจทก์ร่วมของพ่อและแม่นางสาวก้อย ในคดีที่แอม ถูกฟ้องในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนนั้น ศาลได้นั้นตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 2 ตุลาคมนี้ และมั่นใจว่ามีพยานหลักฐานที่แน่นหนา และศาลสามารถลงโทษผู้กระทำผิดได้
ส่วนแม่ของนางสาวก้อย กล่าวว่า ในระหว่างที่ฟังแม่ของแอม เบิกความต่อศาลก็ไม่เชื่อในคำให้การที่บอกว่า แอมเป็นคนโอบอ้อมอารี ไม่คิดทำร้ายผู้อื่น แต่เห็นว่าขัดแย้งกับพฤติการณ์ของแอม และมั่นใจว่าแอมเป็นคนทำร้ายลูกสาวของตัวเอง ซึ่งวันนี้ก็ไม่ได้ซักค้านในคำให้การของฝ่ายโจทก์ แต่ก็ขอให้เวรกรรมมีจริง ส่วนแอม ที่เห็นในห้องพิจารณาคดี ก็พบว่ามีลักษณะซูบผอม ตัวเล็กลง และมีความกังวลหวาดกลัวอะไรบางอย่าง .-สำนักข่าวไทย