นิวเซาท์เวลส์ 31 พ.ค. – เกษตรกรชาวออสเตรเลียหลายพันคนในหลายพื้นที่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ ควีนส์แลนด์ และวิกตอเรียกำลังเผชิญกับปัญหาหนูระบาดที่ทำให้พืชผลทางการเกษตรเสียหายเป็นมูลค่าหลายล้านบาท
นอร์แมน โมริส วัย 65 ปี เป็นหนึ่งในเกษตรกรชาวออสเตรเลียหลายพันคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาหนูระบาดที่ทำลายพืชผลทางการเกษตร กัดแทะอุปกรณ์ทำฟาร์มและเครื่องใช้ในครัวเรือน ทำให้ไฟฟ้าดับ และบุกซูเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง โมริสและเกษตรกรรายอื่น ๆ ต้องเผชิญกับปัญหาหนูระบาดในช่วงเวลาที่น่าปวดใจ เนื่องจากเพิ่งมีฝนตกหนักในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บรรเทาภัยแล้งครั้งใหญ่ของออสเตรเลียในรอบหลายปี อย่างไรก็ดี สภาพอากาศเปียกชื้นไม่เพียงช่วยให้ธัญพืชเจริญงอกงามได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังกลายเป็นอาหารอันโอชะสำหรับหนู และทำให้วงจรการสืบพันธุ์ของพวกมันเป็นไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน
โมริสปลูกข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ ข้าวโอ๊ต ถั่วลูกไก่ และถั่วปากอ้า รวมถึงเลี้ยงแกะเมอริโน 900 ตัวในฟาร์มพื้นที่ 2,800 เอเคอร์ (7,084 ไร่) ใกล้เมืองกิลกานดรา ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากนครซิดนีย์ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 430 กิโลเมตร โมริสกล่าวว่า ธัญพืชที่เสียหายจากปัญหาหนูระบาดคิดเป็นมูลค่าราว 130,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4 ล้านบาท) หลังจากที่เขาต้องเสียแกะไปถึง 2,100 ตัวในช่วงภัยแล้งตลอด 3 ปีที่ผ่านมา และตอนนี้เขาก็คงทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านี้ ทั้งนี้ โมริสได้พยายามใช้เหยื่อล่อวางรอบคอก วางกับดักและถังน้ำรอบบ้าน แต่ฝูงหนูก็ยังคงบุกฟาร์มของเขาเรื่อย ๆ
เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลท้องถิ่นของรัฐนิวเซาท์เวลส์ได้มอบเหยื่อกำจัดหนูฟรีให้แก่เกษตรกร แต่ยังไม่ยอมให้ใช้สารโบรมาดิโอโลน ซึ่งเป็นสารพิษต้องห้ามในออสเตรเลีย ตามที่เกษตรการบางกลุ่มเรียกร้อง ขณะที่เกษตรกรและนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอีกกลุ่มเตือนว่า การใช้สารนี้อาจก่อให้เกิดผลกระทบที่คาดไม่ถึงต่อสัตว์พื้นเมือง.-สำนักข่าวไทย