ผู้ต้องขังติดเชื้อเพิ่ม 1,243 ราย ตายอีก 3 ราย

กทม. 26 พ.ค.-ราชทัณฑ์ รายงานยอดผู้ต้องขังติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 1,243 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย และพบผู้ติดเชื้อในเรือนจำสงขลาเพิ่ม 1 แห่ง

นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์และโฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ (ศบค.รท.) เผยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเรือนจำและทัณฑสถาน ข้อมูล ณ วันที่ 26 พฤษภาคม 2564 เวลา 09.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,243 ราย รักษาหาย 13 ราย เสียชีวิต 3 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลของกรมราชทัณฑ์ 17,138 ราย และตรวจพบผู้ติดเชื้อในเรือนจำจังหวัดสงขลาเพิ่ม 1 แห่ง รวมเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ยังมีผู้ติดเชื้อ จำนวน 14 แห่ง ดังนี้


นายวีระกิตติ์ กล่าวว่า ผู้ต้องขังที่เสียชีวิตจำนวน 3 ราย รายแรกเป็นผู้ต้องขังชายอายุ 62 ปี จากเรือนจำกลางเชียงใหม่ เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์ เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 ด้วยอาการหายใจเหนื่อย อ่อนเพลีย แพทย์ได้ให้ยาและรักษาตามกระบวนการแล้ว แต่อาการไม่ดีขึ้นและทรุดลง เนื่องจากผู้ป่วยสูงอายุ จนกระทั่งได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2564 เวลา 12.48 น.

ส่วนรายที่ 2 ผู้ต้องขังชาย อายุ 64 ปี จากเรือนจำพิเศษธนบุรี ตรวจพบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2564 เข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ด้วยอาการหายใจหอบเหนื่อย ออกซิเจนในร่างกายต่ำ แพทย์ได้ให้ยาและการรักษาภายใต้เครื่องช่วยหายใจ ผล X-ray พบปอดติดเชื้อ ได้ให้ยาลดการหายใจหอบเหนื่อย ความดันโลหิตต่ำ แต่อาการได้ทรุดลง จนกระทั่งได้เสียชีวิตลงในวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 เวลา 03.30 น. หลังได้รับยากระตุ้นหัวใจ และ CPR แล้ว 30 นาที แต่ผู้ป่วยไม่ตอบสนอง


และรายสุดท้าย เป็นผู้ต้องขังชาย อายุ 47 ปี จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ตรวจพบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2564 เข้ารับการรักษาตัวที่ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ด้วยอาการไข้สูง และมีอาการซึม แพทย์ได้ให้ยาต้านไวรัส และรักษาตามกระบวนการ และใส่เครื่องช่วยหายใจ เนื่องจากอาการหายใจหอบเหนื่อยมากขึ้น แต่ผู้ป่วยอาการไม่ดีขึ้นและเริ่มทรุดลง จนกระทั่งในวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 เวลา 06.00 น. ตรวจไม่พบสัญญาณชีพ ได้ทำการให้ยากระตุ้นหัวใจ และ CPR 30 นาที แต่ผู้ป่วยไม่ตอบสนอง จนกระทั่งได้เสียชีวิตลงเมื่อเวลา 06.30 น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว