กรุงเทพฯ 24 พ.ค. – RATCH ขายไลน์ เข้าสู่ธุรกิจสุขภาพ ผนึก PRINC รุกขยายธุรกิจบริการสุขภาพทั่วประเทศ ด้าน PRINC มั่นใจ ปีหน้าเริ่มมีผลประกอบการเป็นบวก หากเพิ่มโรงพยาบาลได้ตามแผน
บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (RATCH) แจ้งว่า ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ บริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) (PRINC) แบบมอบอำนาจทั่วไป จำนวน 346,233,682 หุ้น และหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่ จำนวน 34,623,369 หุ้น รวมเป็นหุ้นทั้งหมด 380,857,051 หุ้น คิดเป็นร้อยละ10 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยมูลค่าการซื้อขายเป็นจำนวน 1,557,705,338.59 บาท ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในสัญญาสำคัญ 3 ฉบับ ได้แก่ สัญญาจองซื้อหุ้น สัญญาซื้อขายหุ้น และสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้น เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เงินลงทุนจะมาจากแผนงานลงทุนปี64 ที่ บริษัทกำหนดไว้ 1.5 หมื่นล้านบาท โดย 8 พันล้านเป็นการลงทุนในโครงการก่อสร้างที่ทำแผนไว้แล้ว และอีก 7 พันล้านเป็นการเตรียมไว้ สำหรับแผนลงทุนในการขยายงานใหม่เช่น โครงสร้างพื้นฐาน โดยอัตราหนี้สินต่อทุนของบริษัท อยู่ที่ประมาณ 0.6 ก็ยังมีความสามารถก่อหนี้ได้อีกเป็นจำนวนมาก ซึ่งธุรกิจโรงพยาบาลนับเป็นการบริหารสังคมที่มีศักยภาพ ส่วนโครงการอื่นๆ ทั้งด้านสื่อสาร การก่อสร้างทางด่วนต่างๆภาครัฐ มีแผนลงทุนถึง6 พัน กม. ในขณะนี้เปิดประมูลลงทุนประมาณไปราวกว่า 300 กม.เท่านั้น
“การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ถือเป็นตัวเร่งการเติบโตที่สำคัญของทั้งห่วงโซ่มูลค่าของธุรกิจด้านการพยบาล จนถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีทางการแพทย์และสุขภาพด้วย โมเดลลงทุนธุรกิจบริการสุขภาพมีความใกล้เคียงกับธุรกิจผลิตไฟฟ้า กล่าวคือ เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนสูงและต้องใช้เวลาในการคืนทุน ที่สำคัญมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของประชาชนทั่วไปซึ่งจะสร้างผลกระทบเชิงบวกแก่สังคมและเศรษฐกิจในภาพรวม ทำให้เชื่อมั่นว่าบริษัทฯ มีความพร้อมในจัดการความเสี่ยงและบริหารผลตอบแทนการลงทุนได้อย่างรัดกุมและมีประสิทธิภาพ ” นายกิจจา กล่าว
นายสาธิต วิทยากร กรรมการผู้จัดการบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าความร่วมมือครั้งสำคัญยิ่งนี้จะนำไปสู่การขยายโรงพยาบาลตามเป้าในปี 2565 รวม 20 แห่งจากปัจจุบันมีจำนวน 11 แห่งใน 10 จังหวัด และมีแผนขยายเครือข่ายปฐมภูมิที่เป็นคลินิกบัตรทอง จากปัจจุบันเปิดดำเนินการ 13 แห่งให้ครอบคลุมทั้งประเทศ 100 แห่งในปี 2565 ใช้เงินลงทุนรวม 5-6 พันล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นการเข้าไปซื้อหรือร่วมทุนในโรงพยาบาลท้องถิ่นที่มีออยู่แล้ว โดย ปกติโครงการโรงพยาบาลจะใช้เวลาคืนทุนจนมีกำไรรวม 3 ปี และ จากแผนขยายงานและโอกาสการเพิ่มรายได้มีเพิ่มขึ้นก็มั่นใจผลประกอบการปีหน้าจะเป็นบวก
นอกจากนี้ทั้ง RATCH กับ PRINC มองทิศทางการเติบโตของธุรกิจสุขภาพโดยเฉพาะฝั่งผู้สูงอายุ ซึ่งยังถือว่ามีโอกาสทางธุรกิจอยู่อีกมาก พร้อมร่วมมือและการพัฒนาฝั่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม ทั้งในเชิงสุขภาพ พลังงานสะอาดและด้านอื่นๆ
ทั้งนี้ PRINC รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส1/2564 ขาดทุนสุทธิ 161.57 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน 37.28% มีสินทรัพย์รวม 1.56 หมื่นล้านบาท หนี้สิน 6,535 ล้านบาท /สำนักข่าวไทย
–