สถาบันบําราศนราดูร 24 พ.ค.-นายกรัฐมนตรีวัคซีนแอสตราเซเนกา เข็มที่ 2 แล้ว ยืนยันทุกคนจะได้ฉีดวัคซีนแน่นอน พร้อมเร่งปรับแผนฉีดให้สอดคล้องกับสถานการณ์แพร่ระบาด
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วยพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ารับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซเนก้าเข็มที่ 2 ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ สถาบันบำราศนราดูร โดยมีนพ.กิตติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้ฉีดให้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณที่จัดให้นายกรัฐมนตรีรับวัคซีน มีป้ายข้อความรณรงค์ว่า “ร่วมมือ ร่วมใจ สร้างภูมิคุ้มกันให้คนไทย พร้อมใจไปฉีดวัคซีน” ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการคัดกรอง วัดความดัน สอบถามสุขภาพ และประเมินอาการหลังฉีด 30 นาที พร้อมรับวัคซีนพาสปอร์ตสำหรับการเดินทางไปต่างประเทศ
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การมารับวัคซีนวันนี้ (24 พ.ค.) เนื่องจากมั่นใจในวัคซีนที่นำเข้ามา ซึ่งผ่านการตรวจสอบประสิทธิภาพและความปลอดภัยแล้ว รวมทั้งเป็นวัคซีนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ภายในประเทศ ซึ่งยอมรับว่าอาจมีผลข้างเคียงบ้าง แต่ไม่อันตรายถึงชีวิต จึงขอให้ประชาชนรับฟังคำแนะนำการปฏิบัติตนจากแพทย์ ทั้งก่อนและหลังฉีดเพื่อความปลอดภัย
“สำหรับแผนการกระจายวัคซีน จะปรับให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาด แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะกระจายให้ทั่วถึง ซึ่งขณะนี้มีทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมมือกันจัดเตรียมสถานที่สำหรับให้บริการฉีดวัคซีนแล้ว อย่างไรก็ตาม ปัจจัยสำคัญในการพิจารณาปรับแผนการฉีดวัคซีนขึ้นอยู่กับ 3 ปัจจัย ประกอบด้วยปริมาณวัคซีนที่จะเข้ามาขีดความสามารถการให้บริการของเจ้าหน้าที่และสถานการณ์การแพร่ระบาด โดยจะต้องประเมินพื้นที่สีแดง กลุ่มเสี่ยงต่าง ๆ เช่นแรงงานก่อสร้าง แรงงานอุตสาหกรรม ครู ขอให้มั่นใจรัฐบาลบริหารจัดการได้ และทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีนตามสัดส่วนของจำนวนประชากร โดยเฉพาะผู้ที่เข้าสู่ระบบหมอพร้อมแล้ว” นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงโควิด-19 สายพันธุ์อินเดียและแอฟริกาใต้ ว่า ขณะนี้รัฐบาลติดตามสถานการณ์และบริหารจัดการอย่างใกล้ชิด โดยได้รับการยืนยันจากกระทรวงสาธารณสุขและกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ว่าวัคซีนที่มีอยู่สามารถดูแลได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของแต่ละบุคคลด้วย ไม่อยากให้ประมาทและไม่อยากให้ตื่นตระหนกจนเกินไป แต่ขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ขอให้มั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ปิดบังข้อมูลอย่างแน่นอน ขอประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าว ระมัดระวังการนำเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ขณะเดียวกันรัฐบาลจะเร่งชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงให้ประชาชนทราบด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกรัฐมนตรีรับการฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาเข็มแรกเมื่อวันที่ 16 มีนาคมที่ผ่านมา โดยมี ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ฉีดให้แก่นายกรัฐมนตรีที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล
ทั้งนี้ SAGE ซึ่งเป็นกลุ่มที่ปรึกษาเชิงกลยุทธ์ของผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างภูมิคุ้มกัน (SAGE) องค์การอนามัยโลก เกี่ยวกับนโยบายและกลยุทธ์ระดับโลกโดยรวมตั้งแต่วัคซีนและเทคโนโลยีการวิจัยและพัฒนาไปจนถึงการให้วัคซีนและการเชื่อมโยงกับมาตรการด้านสุขภาพอื่น ๆ ให้การรับรองวัคซีนซิโนแวคว่า ป้องกันอาการโควิด 67% ป้องกันการแอดมิดเนื่องจากโควิด 85% ป้องกันการเข้า ICU เนื่องจากโควิด 89% ป้องกันการเสียชีวิตเนื่องจากโควิด 80%..-สำนักข่าวไทย