เปิดทรัพย์สิน 3 อดีตรมต.

สำนักงานป.ป.ช. 20 พ.ค.-ป.ป.ชเปิดบัญชีทรัพย์สินหนี้สิน 3 อดีตรัฐมนตรี แกนนำกปปส. หลังพ้นจากตำแหน่งจากศาลสั่งจำคุก “ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ” รวยสุด 1,980 ล้านบาท


สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เปิดเผยบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินอดีตรัฐมนตรีทั้ง 3 คนที่พ้นตำแหน่งเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 เนื่องจากขาดคุณสมบัติการเป็นรัฐมนตรี กรณีที่ศาลพิพากษาสั่งจำคุก จากการชุมนุมทางการเมือง ร่วมกันขัดขวางการเลือกตั้ง ประกอบด้วย นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ กรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายถาวร เสนเนียม กรณีพ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม

บัญชีทรัพย์สินหนี้สินนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีพ้นจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 พบว่านายพุฒิพงษ์และคู่สมรส มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น 203,150,200.05 บาท หนี้สิน 410,850 บาท ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินฝากในบัญชีธนาคาร 19 บัญชี รวมจำนวนเงิน 110 ล้านบาท และมีที่ดินรวมถึงสิ่งปลูกสร้างและโรงเรือนในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการและกรุงเทพมหานคร รวมมูลค่า 58 ล้านบาท ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ มีทั้งพระเครื่องและเครื่องประดับจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่าประมาณ 13 ล้านบาท โดยหนึ่งในนั้นมีแหวนเพชรแต่งงาน มูลค่า 2 ล้านบาท


ส่วนนายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและคู่สมรส มีทรัพย์สิน 1,980,629,068.94 บาท หนี้สิน 122,396,841.29 บาท ทรัพย์สินส่วนใหญ่เป็นเงินฝากในบัญชีธนาคารและเงินลงทุนในสถาบันการเงิน รวมถึงที่ดินในกรุงเทพมหานครหลายแปลงที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 204 ล้านบาท ส่วนทรัพย์สินอื่นที่เป็นเครื่องประดับทั้งต่างหู นาฬิกาและกระเป๋าแบรนด์เนมของคู่สมรส มีมูลค่ารวมกว่า 96 ล้านบาท

ขณะที่นายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคมนาคม และคู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 127,068,783.81 บาท ส่วนใหญ่เป็นเงินฝากในบัญชีธนาคาร และที่ดินที่จังหวัดสงขลาและนครศรีธรรมราช 68 แปลง มูลค่ารวมกว่า 55 ล้านบาท และมีหนี้สิน 30,129,842,.45 บาท ซึ่งเป็นการกู้เงินจากสถาบันการเงิน

นายเทพไท เสนพงศ์ กรณีพ้นจากตำแหน่งส.ส.และคู่สมรส มีทรัพย์สินรวม 927,284,826.19 บาท ไม่มีหนี้สิน ส่วนใหญ่เป็นเงินลงทุน และที่ดินที่กทม. นครศรีธรรมราช ปทุมธานี นนทบุรี นครนายก และเพชรบุรี .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง