กลุ่มศรัทธา ล่ารายชื่อสนับสนุน “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก”

กรุงเทพฯ 19 พ.ค.-ตัวแทนกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า “กลุ่มศรัทธา” ฝ่ายสนับสนุน “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก” ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงพันล้าน นัดรวมตัวแสดงพลัง – ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นทั้งหมด หลังถูกกระแสโจมตีจากสังคม


นางฉัตรฉกฎ ดวงจิตพุทธคุณ แกนนำกลุ่มศรัทธา และเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนกับนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก ผู้ต้องหาคดีร่วมกับพวก 6 คน ฉ้อโกงประชาชนกว่าพันล้านบาท แถลงว่าในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนและรวมไปถึงสมาชิกในกลุ่มอีก 1,072 คน ไม่เคยคิดฟ้องนายประสิทธิ์ เพราะเห็นว่านายประสิทธิ์ ไม่เคยคิดโกงและหลอกลวงตามที่ถูกแจ้งข้อหา ซึ่งทางฝั่งของตนมีมูลค่าการลงทุนรวมกันประมาณ 1,000 ล้านบาท

นางฉัตรฉกฎ บอกว่าตัวเขาเป็นลูกค้านายประสิทธิ์มา 3 ปี เริ่มจากการซื้อตั๋วเดินทาง ต่อมามีนายหน้าแนะนำโปรโมชั่นการลงทุน ซึ่งได้ศึกษาประวัติและข้อมูลอย่างดี ก่อนจะตัดสินใจลงทุน และตลอด 2 ปี เงินปันผลเข้ามาตรงเวลา ที่ผ่านมาลงทุนซื้อทอง หลังผ่านไป 39 วัน ได้รับเงินต้นและดอกเบี้ย ตามสัญญา จึงทำรายชื่อผู้ที่ยังเชื่อนายประสิทธิ์ไม่โกงกว่า 1,000 ชื่อ ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และข้าราชการเกษียณแล้วเพื่อแสดงพลังสนับสนุนนายประสิทธิ์ ส่วนกรณีถูกมองเป็นหน้าม้าได้รับเงินค่าจ้างให้ออกมาเรียกร้อง ขอยืนยันว่าไม่ได้รับเงินค่าจ้างใดๆ รวมทั้งเป็นผู้เสียหายเช่นกัน แต่ทุกคนยังยืนยันว่าเมื่อถึงวันที่นายประสิทธิ์ สิ้นสุดทางคดี และฟื้นตัวได้ ทุกคนจะได้รับเงินคืน พร้อมยืนยันการลงทุนของนายประสิทธิ์ ไม่ใช่แชร์ลูกโซ่


ส่วนความเคลื่อนไหวอีกด้าน กลุ่มผู้เสียหายที่ถูกนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก และพวกฉ้อโกงจำนวนเกือบร้อยคน พร้อมด้วยทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงพลตำรวจโทต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผ่านพลตำรวจตรีปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายต้องการมาติดตามความคืบหน้าของคดี และติดตามเงินที่ถูกหลอกลงทุนจึงขอให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกคำสั่งไปยังกองปราบปรามให้ติดตามเส้นทางการเงินที่อาจถูกโยกย้ายไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่าน และขอให้รวบรวมทรัพย์สินมาไว้ส่วนกลางทั้งหมดเพื่อดำเนินการอายัด และจ่ายคืนให้กับผู้เสียหาย ส่วนตัวเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ และเกี่ยวข้องกันหลายส่วน ทั้งกองปราบปราม กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน

ด้านพลตำรวจตรีปัญญา ระบุคดีนี้มีผู้เสียหายร้องเรียนมาที่ตำรวจตั้งแต่เดือนเมษายน ซึ่งดำเนินการตรวจสอบมาโดยตลอดและพบผู้เสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงมีการตั้งพนักงานสอบสวนขึ้นมาดำเนินการสอบสวน โดยผู้เสียหายที่อยู่ในต่างจังหวัดอยู่ระหว่างประสานพื้นที่ให้ช่วยสอบสวน ไม่ต้องเดินทางมาที่ส่วนกลาง ส่วนการยึด–อายัดทรัพย์ ประสาน ปปง. ตรวจสอบทรัพย์สินตามคำกล่าวอ้างของนายประสิทธิ์ ที่อ้างว่ามีอยู่หลายพันล้าน และหากมีหลักฐานเพิ่มก็จะแจ้งข้อหาอื่นๆ กับนายประสิทธิ์ เพิ่มทันที สำหรับการจับกุมผู้ต้องหา ขณะนี้จับกุมได้ครบทั้ง 6 คน แล้ว ส่วนจะมีผู้ต้องหารายอื่นๆ อีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานหากพบว่าเชื่อมโยงไปถึงใคร จะดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง