ทำเนียบ 19 พ.ค.-กทม.เฝ้าระวัง 5 คลัสเตอร์ใหม่ กังวลแคมป์คนงานที่กระจายอยู่จำนวนมาก ชี้บางเขต มีมากกว่า 20 แคมป์ ขณะที่ในวันพรุ่งนี้แจ้งจุดฉีดวัคซีน
แพทย์หญิงอภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กล่าวว่า คลัสเตอร์ที่เป็นความเสี่ยงในพื้นที่ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี คือ คลัสเตอร์ตลาด ,สมุทรปราการ คือโรงงาน ,เพชรบูรณ์ ขอนแก่น เป็นการสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน , ระนองเป็นการคัดกรองเชิงรุกในแรงงานต่างด้าว และในบางจังหวัดยังคงมีการร้องเรียนการรวมกลุ่มการเล่นการพนันและสูบบารากุ ซึ่งทาง ศบค. ขอให้ประชาชน ชุมชนและกระทรวงมหาดไทยตรวจตราการกระทำผิดเหล่านี้ด้วย
แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวว่า สำหรับการตรวจเชิงรุกในเรือนจำจะยังทำต่อเนื่องอีกประมาณ 2-3 วัน ซึ่งจะยังมีตัวเลขการรายงานจากเรือนจำมาในสัปดาห์นี้ และคาดว่าหลังจากหนึ่งสัปดาห์ตัวเลขจากเรือนจำก็จะลดลงและหมดไป โดยในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ได้มีการตรวจ 3,021 ราย พบติดเชื้อ 2,908 ราย คิดเป็นร้อยละ 61 เรือนจำกลางของเปรม ตรวจ 8,087 ราย พบติดเชื้อ 1,538 คิดเป็นร้อยละ 15 แล้วเรือนจำบางขวางตรวจ 5,607 รายพบติดเชื้อ 598 ราย คิดเป็นร้อยละ 6 ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อที่อยู่ในเรือนจำ ซึ่งเป็นระบบปิด ทำให้ไม่มีโอกาสแพร่เชื้อมายังบริเวณภายนอกและเจ้าหน้าที่จะให้การดูแลตามมาตรฐานสาธารณสุขเช่นเดียวกับประชาชนภายนอก และได้ระดมทีมแพทย์เข้าไปช่วยเหลือในเรือนจำแล้ว
แพทย์หญิงอภิสมัย กล่าวว่า ขณะนี้การเฝ้าระวังในพื้นที่ กทม. มีจำนวน 34 คลัสเตอร์ โดยล่าสุดเฝ้าระวัง 5 คลัสเตอร์ คือ ตลาดบางกะปิ แคมป์ก่อสร้างเขตบางคอแหลม และดอนเมือง โรงงานน้ำแข็งในเขตจตุจักร โกดังสินค้าให้เช่าในเขตบางซื่อ ซึ่งในแต่ละเขตมีอัตราการติดเชื้อไม่เท่ากัน แต่ที่น่ากังวล คือในส่วนของแคมป์คนงาน ที่ในบางเขตมีแคมป์คนงานมากกว่า 20 แคมป์ เช่นที่ เขตบางกะปิ บางเขน ลาดพร้าว ห้วยขวาง และในบางแคมป์มีจำนวนคนงานเกิน 1,000 คน
ทั้งนี้มีการพูดคุยในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก ถึงการดูแลเฝ้าระวังแคมป์คนงานต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะลงพื้นที่ดูแลเฝ้าระวัง โดยทาง ผอ.เขตจะเข้าไปพูดคุยถึงมาตรการเข้มงวดในการบริหารจัดการต่างๆ เช่น การแยกกระติกและแก้วในการดื่มน้ำ และให้งดการเคลื่อนย้ายคน รวมถึงบริษัทต้องจัดรถรับส่งแรงงานทั้งหมดในการเดินทางและไม่อนุญาตให้มีการแวะพักและออกนอกเส้นทาง หากจะมีการเคลื่อนย้ายคนจะต้องมีการทำเรื่องแจ้งมายังผอ.เขต และสุดท้ายหากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ ทางเขตมีอำนาจในการปิดแคมป์คนงานนั้นได้
พญ.อภิสมัย กล่าวถึง การบริหารจัดการวัคซีน รวมถึงการตั้งจุดฉีดวัคซีนว่า ให้ประชาชนติดตามข้อมูลการรายงานในแต่ละพื้นที่ เพราะแต่ละจังหวัดจะได้รับการกระจายวัคซีนตามจำนวนประชากร ซึ่งในส่วนของกทม. ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัย ศูนย์ประชุม สนามกีฬา ศูนย์การค้า โรงงาน มีการเสนอเรื่องเข้ามา และทางกทม. จะมีการประชุมและประกาศจุดที่สามารถฉีดวัคซีนในวันพรุ่งนี้ (20 พ.ค.) โดยยึดหลักที่ให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเข้ามาฉีดวัคซีนให้มากที่สุด นอกจากนี้ที่ประชุม ศบค.ได้หารือถึงการกระจายวัคซีนให้ไปถึงกลุ่มคนเพิ่มเติม คือ พนักงานขนส่งอาหาร นอกเหนือจากพนักงานขับรถขนส่งสาธารณะด้วย รวมไปถึงนักเรียนไทยที่จะเดินทางกลับไปเรียนยังต่างประเทศ ซึ่งได้มีการประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดให้ติดต่อกลุ่มนักเรียนเหล่านี้ เพื่อเข้ามาฉีดวัคซีนต่อไป.-สำนักข่าวไทย