ผู้เสียหายคดีฉ้อโกงเกือบร้อยราย แจ้งอายัดทรัพย์ “ประสิทธิ์ เจียวก๊ก”

19 พ.ค. – ผู้เสียหายเกือบร้อยคน สวมชุดสีขาวเพื่อป้องกันการติดเชื้อ พร้อมทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เดินทางมาที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากคดีฉ้อโกงพันล้าน เครือข่ายนายประสิทธิ์ เจียวก๊ก เข้ายื่นหนังสือถึงพลตำรวจโทต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ติดตามเร่งรัดคดีและออกคำสั่งไปยังกองบังคับการปราบปราม ยึดอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องในขบวนการที่มีมูลค่าความเสียหายจากธุรกิจที่มีค่าความเสียหายกว่า 209 ล้านบาท โดยพลตำรวจตรีปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นผู้รับเรื่องแทน


ทนายรณณรงค์ เปิดเผยว่า ผู้เสียหายต้องการมาติดตามความคืบหน้าของคดีและติดตามเงินที่ถูกหลอกลงทุน จึงมาขอให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางออกคำสั่งถึงกองปราบปรามให้ติดตามเส้นทางการเงินที่อาจถูกโยกย้ายไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ เพื่อขอให้มีการรวบรวมทรัพย์สินมาไว้ที่ส่วนกลางทั้งหมด เพื่อดำเนินการอายัดและแจกจ่ายคืนให้กับผู้เสียหาย และทราบว่าเหตุที่ก่อนหน้านี้ยังไม่มีการอายัดทรัพย์ในคดี เนื่องจากตำรวจกองปราบปรามมองว่าเป็นการยากในการพิสูจน์ทรัพย์ว่าทรัพย์สินใดที่ได้จากการกระทำผิด จึงต้องการขอให้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางเข้าไปเร่งรัดให้คำแนะนำในทางคดี

ส่วนตัวเชื่อว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่ ตั้งข้อสังเกตจากพฤติการณ์การประกอบธุรกิจโดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยว ในปีที่ผ่านมา 2563 เชื่อว่าไม่มีธุรกิจใดสามารถดำเนินธุรกิจได้และได้ผลกำไร จึงไม่มีการนำเงินมาปันผลให้กับผู้มาลงทุนอย่างแน่นอน และเชื่อว่าคดีนี้อาจจะมีการเกี่ยวข้องกับในหลายส่วนทั้งกองปราบปราม กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และรวมไปถึง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน


ด้านพลตำรวจตรีปัญญา ปิ่นสุข รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ระบุ คดีนี้มีผู้เสียหายร้องเรียนมาที่ตำรวจตั้งแต่เดือนเมษายนแล้ว ซึ่งได้ดำเนินการตรวจสอบมาโดยตลอดและพบผู้เสียหายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงได้มีการตั้งพนักงานสอบสวนขึ้นมาเพื่อมาช่วยสอบสวน โดยผู้เสียหายที่อยู่ในต่างจังหวัดอยู่ระหว่างประสานพื้นที่ให้ช่วยสอบสวนเพื่อไม่ต้องเดินทางมาที่ส่วนกลางป้องกันการแพร่ระบาด

ส่วนของการยึดอายัดทรัพย์มีการประสานสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินตรวจสอบทรัพย์สินตามคำกล่าวอ้างของนายประสิทธิ์ ที่อ้างว่ามีอยู่หลายพันล้าน

ส่วนการแจ้งข้อหาอื่นกับนายประสิทธิ์ หากมีหลักฐานอื่นที่เชื่อมโยงจะดำเนินการเพิ่มทันที        สำหรับการจับกุมผู้ต้องหา ขณะนี้จับกุมได้ครบทั้ง 6 คน แล้ว ส่วนจะมีผู้ต้องหารายอื่นๆ อีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานหากพบว่าเชื่อมโยงไปถึงใคร จะดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง