กรุงเทพฯ 17 พ.ค.-“ชวน” ย้ำทุกคนที่เข้าสภาต้องตามกฎ ไม่ยอมให้เป็นที่ปล่อยเชื้อ แต่ส.ส.ขอถอดระหว่างอภิปรายได้ ถ้าพูดไม่สะดวก พร้อมห่วงกมธ.งบฯ ต้องวางกรอบให้ชัด จำกัดเฉพาะกระทรวงที่เกี่ยวข้องแต่ละวัน อย่าปล่อยรอนาน เสี่ยงคลัสเตอร์ใหม่
นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ “สำนักข่าวไทย” กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมให้อำนาจประธานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาว่าจะให้ส.ส.ถอดหน้ากากอนามัยระหว่างการประชุมสภาฯหรือไม่ โดยยืนยันว่าส.ส.และเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตั้งแต่เข้ามาในอาคารรัฐสภาและเข้าที่ประชุม แต่เวลาอภิปราย หากสมาชิกไม่สะดวกระหว่างพูดและจะขอถอดหน้ากากเป็นเรื่องที่ต้องหารือกันอีกครั้ง ซึ่งหากให้อำนาจประธานฯ จะพิจารณาในขณะนั้นว่าจะอนุญาตหรือไม่ ซึ่งคิดว่าไม่ใช่เรื่องน่าเป็นห่วงมากนัก เพราะคนที่อภิปรายไม่ใช่ผู้ติดเชื้อ แต่ต้องป้องกันโดยเข้มงวด และในการประชุมสภาฯ สามารถนั่งเว้นระะยะห่างได้ ซึ่งหากทุกคนปฏิบัติตามนี้คงไม่มีปัญหา
“ที่ผ่านมาที่มีปัญหาคือเวลาอภิปรายแล้วเพื่อนมานั่งข้าง ๆ เพราะมีการถ่ายทอดทีวีออกไป แต่ครั้งนี้คงไม่มีเพราะต้องนั่งเว้นระยะห่าง เที่ยวที่แล้วเราเคยทำในแง่นี้ สำหรับเวลาอภิปราย สมาชิกสามารถถอดหน้ากากได้ แต่เที่ยวนี้อาจจะเคร่งครัดมากกว่าเดิม เพราะอย่างที่เราทราบกันอยู่ว่าติดเชื้อจำนวนมาก เพราะฉะนั้นในสภาจะพยายามทำให้ไม่เป็นแหล่งกระจายเชื้อใหม่ จะพยายามเข้มงวด แต่ปัญหาอยู่ที่ความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ด้วย ถ้าใครอภิปรายโดยไม่ต้องถอดหน้ากากได้ก็ดี แต่ใครที่บอกว่าจำเป็นต้องถอด เราจะพิจารณาความเหมาะสมอีกที” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว
สำหรับกรณีที่มีส.ส.บางคนยังไม่ฉีดวัคซีนจะทำอย่างไร นายชวน กล่ววว่าเจ้าหน้าที่ที่เข้ามาในสภาฯทุกคนจะต้องฉีดวัคซีนหรือมีใบรับรองจากแพทย์ว่าเป็นผู้ไม่มีเชื้อในเวลาที่กำหนด ส่วนส.ส.คงบังคับไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่น่าจะฉีดวัคซีนแล้ว และเมื่อมาถึงสภาฯ ต้องตรวจวัดอุณหภูมิเข้มข้น หากอุณหภูมิในร่างกายไม่เกินกว่าที่กำหนด ต้องสันนิษฐานว่าคงไม่มีเชื้อ เชื่อว่าทุกคนที่เข้ามาในสภาฯ ต้องรู้ตัวว่าเสี่ยงหรือไม่ หากส.ส.คนใดไม่แน่ใจต้องพิจารณาตัวเอง ไม่ใช่เป็นคนปล่อยเชื้อ ขอย้ำว่าสภาฯ ไม่ใช่ที่ปล่อยเชื้อ และที่ผ่านมาก็ยังไม่มีส.ส.ที่ติดเชื้อ ส่วนที่เป็นนข่าวมาก่อนหน้าที่คือติดมาจากที่อื่น
“ต้องขอบคุณทุกฝ่ายที่เป็นห่วงและกังวล แต่จะให้ถึงขั้นเลื่อนการประชุมออกไป ก็เห็นว่าสภาฯ ต้องรับผิดชอบในงานของตัวเอง ไม่เช่นนั้นจะถูกตำหนิได้ เพราะฝ่ายอื่นยังต้องทำงาน แม้จะมีสถานการณ์ของโควิด-19 และเมื่อดูโดยรอบคอบแล้วเห็นว่าโอกาสเสี่ยงไม่มาก หากทุกคนระมัดระวังและรักษาระเบียบ รวมถึงคำแนะนำในการป้องกันอย่างเข้มขน จะทำให้งานของสภาฯ เดินหน้าไปได้ ไม่เช่นนั้นงานก็ค้าง งบประมาณก็ผ่านไม่ได้ แล้วจะมีปัญหาตามมา โดยเฉพาะร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 ซึ่งรัฐบาลส่งมาถึงสภาฯ วันนี้(17 พ.ค.) ที่ต้องเริ่มนับหนึ่งในกรอบระยะเวลา 105 วัน หลังจากนี้จะได้แจกจ่ายร่างฯให้กับสมาชิกเอาไปศึกษา” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว
นายชวน กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาได้ประชุม 4 ฝ่าย และได้แจ้งกับรัฐมนตรีซึ่งเป็นตัวแทนรัฐบาลว่า หากรัฐบาลเห็นว่าการประชุมสภาฯ จะเสี่ยงและเป็นอันตรายจะขอให้งดการประชุมก็ขอให้แจ้งมาได้เลย ทางสภาฯยินดีให้ความร่วมมือ แต่หากไม่ถึงขั้นนั้นต้องเดินหน้าประชุม ไม่เช่นนั้นจะมีปัญหาตามมา อย่างไรก็ตาม เท่าที่สอบถามแล้วไม่มีปัญหานี้ เพราะได้สอบถามรองนายกฯ รัฐมนตรีและสำนักงบประมาณแล้วยืนยันตามนี้ ซึ่งความจริงสำนักงบประมาณอยากให้ประชุมวันที่ 27 พ.ค. แต่มีพระราชกำหนดที่ต้องพิจารณาก่อน
“ขอย้ำว่าสภาฯจะต้องมีมาตรกรเข้มตรวจตราการเข้า-ออกในสภาฯโดยเฉพาะการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณางบฯ 65 ชุดใหญ่ ซึ่งตอนนี้เตรียมห้องอย่างดีที่สุด แต่จะต้องขอร้องว่าตอนเชิญกระทรวงมาชี้แจงให้จัดลำดับให้ชัดเจน และกระทรวงไหนที่ไม่เกี่ยวข้อง ไม่ต้องให้มารอข้ามคืน เมื่อจบกระทรวงไหนให้กลับไป ไม่ใช่ให้มารอกันเต็ม จะต้องจำกัดในแง่นี้ ถ้าปล่อยไว้จะเป็นอันตรายเพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร และผมว่าโควิด-19 ทำให้เราได้ทบทวนวิธีการทำงาน ซึ่งเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพเป็นประโยชน์ ไม่สิ้นเปลืองเวลาและงบประมาณ โดยใช้วิธีปรับให้เหมาะสม ไม่ใช่ให้มารอตั้ง 3 วันกว่าจะได้ชี้แจง” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว.-สำนักข่าวไทย