ออกหมายจับเเล้ว! แก๊งฆ่าเผารถฝังดิน

กระบี่ 14 พ.ค.- ออกหมายจับแล้ว 3 พี่น้องตระกูลเริงสมุทร ที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมอำพรางนายสุชาติ ขาวล้วน ที่จังหวัดกระบี่ ส่วนปมสังหารคาดเป็นเรื่องหนี้สิน 


ศาลจังหวัดกระบี่ออกหมายจับ นายสุริยา เริงสมุทร หรือ “บังฟิต” อายุ 32 ปี, นายสุวิทย์ เริงสมุทร อายุ 26 ปี น้องชาย และนายสุรชัย เริงสมุทร อายุ 38 ปี พี่ชาย ผู้ต้องหาในคดีสะเทือนขวัญ ร่วมกันฆ่านายสุชาติ ขาวล้วน ในฐานความผิดฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, กักขังหน่วงเหนี่ยว, ทำลายซ่อนเร้น, วางเพลิงทำให้เสียทรัพย์, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง และพกพาอาวุธปืน 

คดีนี้สืบเนื่องจากนางอารักษ์ ทับไทร เข้าแจ้งความที่ สภ.ลำทับ ว่าพ่อก็คือนายสุชาติ ขาวล้วน ขับรถยนต์โตโยต้าโคโรนาสีขาว ทะเบียน กน 6552 กระบี่ ไปทวงเงิน 3 แสนบาทจากนายสุริยา หรือบังฟิต ก่อนหายตัวปริศนาร่วม 1 สัปดาห์ จนต้องตัดสินใจเข้าแจ้งความ และตำรวจได้สอบปากคำพยานปากสำคัญ ทำให้เชื่อได้ว่า 3 ผู้ต้องหามีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของนายสุชาติ 


จากนั้นตำรวจได้ระดมหารถยนต์ของนายสุชาติในพื้นที่ตำบลหนองทะเล อำเภอเมืองกระบี่ เพราะขณะการสืบสวนได้มีข้อความลึกลับส่งถึงญาติว่า นายสุชาติถูกฆ่าฝังดินพร้อมทิ้งรถในสวนปาล์มให้ญาติเลิกติดตามไม่เช่นนั้นจะถูกฆ่ายกครัว

การระดมค้นหาอย่างหนัก ทำให้พบศพนายสุชาติถูกฆ่าฝังดินห่างจากจุดพบรถ 700 เมตร ซึ่งศพอยู่ในสภาพเน่าเปื่อยเพราะถูกราดด้วยน้ำยาฆ่ายางเพื่อให้ศพเปื่อยเร็ว ขณะที่ตามร่างกายพบร่องรอยถูกยิงศีรษะและราวนมซ้าย และห่างจากจุดพบศพไม่มากยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม.จำนวน 2 ปลอก 

ล่าสุด พลตำรวจเอกสุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร.พร้อมทีมสืบสวนคลี่คลายคดีได้บินด่วนไปตรวจจุดเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของนายสุริยา หรือบังฟิตเพียง 200 เมตร โดย รองผบ.ตร.กำชับให้ชุดสืบสวนเก็บพยานหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นร่องรอยการเข้ามาขุดหลุม รวมถึงวิธีการนำรถลงไปในหลุม การฝังกลบเพื่อหากลุ่มที่ร่วมลงมือก่อเหตุ จากนั้นเดินทางไปยัง สภ.อ่าวนาง เพื่อประชุมร่วมกับทีมสืบสวนพร้อมเปิดเผยว่า ทีมสืบสวนคาดว่าผู้ร่วมก่อเหตุมีไม่ต่ำกว่า 4-5 คน ส่วน 3 ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกนอกพื้นที่กระบี่ไปแล้ว ขณะที่ปมสังหารน่าจะมาจากเรื่องเงินหรือหนี้สิน ส่วนที่มาของเงินจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ต้องสืบสวนกันต่อไป เพราะผู้ตายพัวพันกับคดียาเสพติด และถูกจำคุกมาแล้ว 19 ปี เพิ่งพ้นโทษมาได้ประมาณ 1 ปีเศษก่อนถูกฆ่า


ขณะที่ข้อความแชทที่ส่งมาให้ญาติผู้ตาย ยังไม่ได้นำเอามาใส่ในสำนวนเพราะอยู่ระหว่างตรวจสอบหาที่มาว่ามีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเกตุหรือไม่ แต่เชื่อได้ว่ามีการวางแผนกันมาก่อนลงมือ และมีผู้ร่วมก่อเหตุไม่น้อยกว่า 5 คน ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการรอศาลอนุมัติหมายจับ 3 พี่น้องที่คาดว่าร่วมกันก่อเหตุ 

ส่วนพฤติกรามของกลุ่มคนร้ายนั้นสันนิษฐานว่า หลังจากนายสุชาติได้ไปบ้านของบังฟิต ได้ถูกพาไปสวนยางพาราเพื่อพูดคุยบางอย่างก่อนถูกยิง 2 นัด แล้วนำศพฝังส่วนรถยนต์ของนายสุชาติ บังฟิต ได้ไปว่าจ้างแบ็กโฮที่ทำงานล้มต้นยางพาราขุดหลุม โดยให้ค่าจ้าง 2,000 บาท แต่ไม่ได้บอกว่าให้ฝังศพคนบอกเพียงขุดเพื่อให้ฝังวัว 3 ตัว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง