วอชิงตัน 11 พ.ค. – องค์การอาหารและยาของสหรัฐ หรือเอฟดีเอ อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบโอเอนเทคในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป และคาดว่าจะเริ่มฉีดวัคซีนได้เร็วสุดในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น
นายปีเตอร์ มาร์กส์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและประเมินด้านชีววิทยาของเอฟดีเอกล่าวว่า สหรัฐจะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่เด็กอายุ 12 – 15 ปี หลังจากคณะกรรมการที่ปรึกษาของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี พิจารณาเรื่องนี้ในวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่ ดร. วิลเลียม กรูเบอร์ นักวิทยาศาสตร์ชั้นนำของบริษัทไฟเซอร์ระบุว่า การอนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในเด็กวัยรุ่นตอนต้นจะทำให้ประชากรสหรัฐได้รับวัคซีนครอบคลุมมากยิ่งขึ้นและปกป้องกลุ่มอายุที่มีโอกาสเสี่ยงติดเชื้อโควิดเช่นกัน
ไฟเซอร์เผยเมื่อเดือนมีนาคมว่า ผลการทดลองทางคลินิกในเด็กอายุ 12 – 15 ปี จำนวน 2,260 คน พบว่า เด็กกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ติดเชื้อ 18 คน เด็กกลุ่มที่ได้รับวัคซีนไม่ติดเชื้อเลย แสดงว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพป้องกันอาการป่วยได้ 100% อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขหลายรายกังวลว่า การที่ผู้ปกครองยังไม่เชื่อใจในวัคซีนอาจมีผลต่อการตัดสินใจให้บุตรหลานฉีดวัคซีน เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลระยะยาวต่อพัฒนาการของเด็ก
ส่วนการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประชาชนทั่วไป ซีดีซีเผยว่า มีประชาชนได้รับวัคซีนโดสแรกแล้วร้อยละ 46 จากประชากรทั้งหมด 328.2 ล้านคน แต่อัตราฉีดวัคซีนกลับชะลอตัวอย่างมีนัยสำคัญนับตั้งแต่ทำสถิติฉีดวัคซีนสูงสุดเฉลี่ยวันละกว่า 3.3 ล้านโดสในรอบ 7 วันเมื่อช่วงกลางเดือนเมษายน โดยลดลงเหลือประมาณวันละ 2.1 ล้านโดสนับถึงวันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา. -สำนักข่าวไทย