“กวางผา” อวดโฉมที่กิ่วแม่ปาน เป็นครั้งที่ 2 ของปี

เชียงใหม่ 7 พ.ค. – อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เผยแพร่ภาพ “กวางผา” ที่บันทึกได้ขณะออกมาบริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

กวางผา (Burmese goral) พบการกระจายในพื้นที่กลุ่มป่าอนุรักษ์ 2 กลุ่มป่า ครอบคลุมพื้นที่อนุรักษ์ 11 แห่ง โดยพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่มีความสำคัญในการอนุรักษ์กวางผาได้แก่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่ตื่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอมก๋อย อุทยานแห่งชาติแม่ปิง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่เลา-แม่แสะ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย และพื้นที่ควบคุมการจัดตั้งเขตห้ามล่าสัตว์ป่าแม่แจ่ม โดยมีปัจจัยสำคัญต่อการเลือกใช้ประโยชน์พื้นที่ของกวางผา คือ พื้นที่ที่มีระดับความสูงและลาดชันมาก ห่างไกลจากแหล่งชุมชนและมีการรบกวนจากกิจกรรมของมนุษย์น้อยมาก


พฤติกรรมของกวางผา มันจะอาศัยอยู่เดี่ยวๆ ตามลำพัง หรือบางช่วงจะอาศัยอยู่กันเป็นคู่หรือกลุ่มเล็กๆ (2-6 ตัว) หากินในช่วงเช้าและเย็น ในที่โล่งตามทุ่งหญ้า ที่ลาดชันน้อย ส่วนช่วงกลางวันมักจะนอนพักผ่อนบนลานหินตามหน้าผา ชะง่อนหิน ส่วนอาหาร ส่วนใหญ่กินหญ้า รองลงมาเป็นไม้ล้มลุก ผลไม้ ยอดไม้และใบไม้พุ่มเตี้ย ๆ อาหารโปรดของกวางผา คือยอดอ่อนของหญ้าระบัด มันมักใช้พื้นที่หากินบริเวณทุ่งหญ้า ตามหน้าผา และป่าดิบเขาเป็นส่วนใหญ่ แล้วใช้บริเวณลานหินที่เป็นที่หากิน โดยมักพบกวางผาอยู่ในระดับความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 500-2,200 เมตร กวางผาเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ตอนอายุ 2 – 3 ปี ผสมพันธุ์ในช่วงเดือน พฤศจิกายน – ธันวาคม ระยะเวลาในการตั้งท้องอยู่ที่ประมาณ 6 – 7 เดือน

กวางผาจัดเป็นสัตว์ป่าสงวนตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 สาเหตุที่มีจำนวนลดลงเนื่องจากปัจจัยคุกคามหลาอย่างได้แก่ การบุกรุกถางป่าเพื่อทำไร่เลื่อนลอยทำให้กวางผาสูญเสียถิ่นที่อยู่อาศัย การปล่อยสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะวัวควาย ซึ่งเป็นสัตว์ที่อยู่ในวงศ์เดียวกับกวางผา จะสามารถนำมาซึ่งโรคระบาดที่สามารถติดกวางผาได้ ถูกล่า และเมื่อมีจำนวนน้อยลงมากจึงเกิดภาวะเลือดชิด กรณีกระทำผิด ล่าล่าสัตว์ป่าสงวน เช่น เลียงผา กวางผา เก้งหม้อ มีโทษจำคุก 3 ปี ถึง 15 ปี ปรับเป็นเงินตั้งแต่ 3 แสนถึง 1 ล้าน 5 แสนบาท


กวางผามีลักษณะคล้ายเลียงผา แต่เลียงผา (Serow) มีขนาดใหญ่กว่า เลียงผาจะมีการแพร่กระจายที่กว้างขวางกว่ากวางผา จึงสำรวจพบร่องรอยมากกว่า โดยพบร่องรอยของเลียงผาในป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขาป่าสนเขา ป่าไผ่ ป่าฟื้นฟูตามธรรมชาติ พื้นที่เกษตร ป่าเบญจพรรณ ไร่ร้าง ป่าเต็งรังและทุ่งหญ้า เมื่อเปรียบเทียบค่าความชุกชุมของทั้งเลียงผาและกวางผาจากทุกสภาพป่าที่อยู่ในกลุ่มป่าแม่ปิง-อมก๋อย และกลุ่มป่าลุ่มน้ำปาย-สาละวิน พบว่าทั้งเลียงผาและกวางผาพบในป่าเบญจพรรณมากที่สุด

เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์บันทึกภาพกวางผาได้เป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ ครั้งก่อนหน้าคือ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ ขณะนี้อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์อยู่ระหว่างปิดการท่องเที่ยวและพักแรมประจำปี โดยเริ่มปิดตั้งแต่ 1 พ.ค. – 31 ก.ค. 64 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : 053-286729 .- สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ