พนมเปญ 6 พ.ค.-กัมพูชายุติการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในกรุงพนมเปญ นครหลวงแล้วในวันนี้ หลังจากใช้มาตการคุมเข้มนี้มาเป็นเวลา 3 สัปดาห์เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยวันนี้การจราจรกลับมาหนาแน่นบนถนนบางสาย ในณะที่เจ้าหน้าที่ยังคงใช้มาตรการเข้มงวดต่อไปในบางเขตที่ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นจำนวนมาก
ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขเตือนเรื่องการยกเลิกมาตรการคุมเข้มเร็วเกินไป แต่การล็อกดาวน์สร้างความไม่พอใจให้กับชาวกรุงพนมเปญส่วนหนึ่งที่ระบุว่า การกระจายและแจกจ่ายอาหารไม่เพียงพอ กัมพูชาถือเป็นประเทศหนึ่งในโลกที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 น้อย แต่การระบาดเพิ่มขึ้นจาก 500 ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์มาอยู่ที่ 17,621 รายและมีผู้เสียชีวิต 114 ราย ในวันนี้ เจ้าหน้าที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 650 ราย และผู้เสียชีวิตอีก 4 ราย เจ้าหน้าที่เคลื่อนย้ายสิ่งกีดขวางเมื่อคืนที่ผ่านมาในพื้นที่สีเหลือง ซึ่งถือเป็นพื้นที่ปลอดภัยในการเคลื่อนย้ายหรือเดินทาง ในขณะที่พื้นที่สีแดงและสีส้ม เป็นเขตที่มีการระบาดมากกว่า ซึ่งจะต้องอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ต่อไปจนถึงวันที่ 12 พฤษภาคม รองผู้ว่าการกรุงพนมเปญ กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า เขาขอให้ประชาชนอย่าประมาท เนื่องจากขณะนี้ต้องใช้ชีวิตรูปแบบใหม่ที่อยู่ภายใต้บริบทที่มีการระบาดของโควิด-19 เขากล่าวว่า พื้นที่สีเหลือจะสามารถดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจและการสัญจรทางถนนได้มากขึ้นแต่ยังคงมีมาตรการห้ามออกนอกเคหะสถานหรือเคอร์ฟิว ระหว่าง 20.00-03.00 น. ในขณะที่กรุงพนมเปญเริ่มเปิดเมือง เจ้าหน้าที่นำมาตรการใหม่เข้ามาใช้ เช่น อนุญาตให้คนงานกลับมาทำงานในโรงงานได้ร้อยละ 50 และเปิดโอกาสให้ผู้ที่ฉีดวัคซีนโควิดก่อน ส่วนมาตรการอื่น ๆ ก็เช่น เพิ่มการตรวจหาเชื้อไวรัสเชิงรุก ระดมฉีดวัคซีนในพื้นที่ที่มีการระบาดมากในกรุงพนมเปญและห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์.-สำนักข่าวไทย