กรุงเทพฯ 30 เม.ย. – อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์แนะประชาชนที่ถูกสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจฯ หลอกให้ออมเงินเข้าแจ้งความดำเนินคดี เนื่องจากเป็นการทำธุรกิจแชร์ลูกโซ่ โดยกรมสั่งยกเลิกสหกรณ์แห่งนี้แล้ว
นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ (กสส.) กล่าวว่า ขอให้ประชาชนที่หลงเชื่อและฝากเงินกับกลุ่มบุคคลที่อ้างตนเป็นคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจ บริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด และไม่สามารถถอนเงินได้ ไปแจ้งความดำเนินคดี มีเจตนาหลอกลวงประชาชน เป็นการกระทำที่เข้าลักษณะฉ้อโกงประชาชนและมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 343 นอกจากนี้ยังพบพฤติกรรมดำเนินธุรกิจคล้ายแชร์ลูกโซ่ โดยโฆษณาชวนเชื่อทางสื่อออนไลน์แก่บุคคลทั่วไปให้สมัครสมาชิก พร้อมจูงใจให้ฝากเงินด้วยผลตอบแทนที่เกินกฎหมาย รวมทั้งไม่ปรากฏว่า นำเงินไปทำธุรกิจที่ก่อให้เกิดรายได้ที่จะนำมีผลตอบแทนมาให้ผู้ฝากเงินจึงไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริงในการดำเนินธุรกิจ มีการใช้ชื่อสหกรณ์รับฝากเงินจากบุคคลในชื่อสหกรณ์ 6 บัญชี แต่พบเพียง 2 บัญชีที่มีการเคลื่อนไหวทางการเงิน แต่อีก 4 บัญชีไม่มีสมุดบัญชีและเอกสารให้ตรวจสอบ และไม่มีการบันทึกรายการบัญชีของสหกรณ์ จากเอกสารของผู้ร้องเรียนที่ฝากเงิน แต่ไม่สามารถถอนได้จาก 4 บัญชีนี้ 41 ราย วงเงิน 214 ล้านบาท ขณะนี้ผู้เสียหายบางรายได้แจ้งความดำเนินคดีแล้ว แต่คาดว่า ยังมีรายอื่นอีก
นายวิศิษฐ์กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า ที่ตั้งสำนักงานที่มีการจดแจ้งตามข้อบังคับกับสถานที่ทำธุรกรรมไม่ตรงกัน ขณะที่ไปมีป้ายชื่อสหกรณ์ไปติดที่บริษัท เวบสวัสดี จำกัด (มหาชน) ทำให้ประชาชนสำคัญผิดคิดว่าเป็นสำนักงานสหกรณ์จึงมีการหลงเชื่อสมัครเป็นสมาชิกและฝากเงิน กรรมการสหกรณ์ไม่จัดประชุมเพื่อพิจารณาบริหารงานให้เป็นไปตามข้อบังคับตั้งแต่จดทะเบียนสหกรณ์ การบันทึกบัญชีไม่เป็นปัจจุบัน เจ้าหน้าที่กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ได้ตรวจสอบและแนะนำให้ปรับปรุงบัญชีทั้งค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ จำนวนดอกเบี้ยค้างจ่าย ไม่สามารถแสดงสมุดบัญชีให้ตรวจสอบได้ โดยเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์แจ้งว่าไม่ทราบสมุดอยู่ที่ไหน ไม่ทราบกรรมการผู้ใดเก็บรักษา
ทั้งนี้ สหกรณ์ดังกล่าวมีสมาชิก ณ 30 มิ.ย.63 จำนวน 319 ราย และมีการรับสมาชิกสมทบที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายและไม่มีการจัดทำทะเบียนสมาชิกสมทบจึงไม่สามารถตรวจสอบรายชื่อได้ มีบัญชีออมทรัพย์ 271 บัญชี มีเงินคงเหลือรวม 3 แสนบาทและบัญชีฝากประจำ 16 บัญชี มีเงินคงเหลือ 3 ล้านบาท กรณีผู้ร้องเรียนไม่มีรายชื่อปรากฏในบัญชีสหกรณ์ ประกอบกับสหกรณ์ไม่มีการจัดทำทะเบียนคุมสมุดบัญชีเงินฝากที่ออกให้กับสมาชิกจึงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่า ได้ออกสมุดบัญชีรับฝากไปแล้วเท่าไหร่ แต่จากการตรวจเอกสารผู้ร้องที่ไม่สามารถขอถอนเงินได้กลับพบว่า มีการโอนเข้าบัญชีสหกรณ์ที่ไปเปิดกับธนาคารอื่น ๆ ที่ไม่ได้แจ้งต่อกรมส่งเสริมสหกรณ์อีก 3 บัญชีและพบว่าบันทึกช่วยจำในเอกสารการโอนแต่ละฉบับระบุผลตอบแทนเช่น เงินฝากสหกรณ์ 39 วัน ได้ดอกเบี้ยร้อยละ 10 ฝากสหกรณ์ 35,000 บาท รับทอง 6,000 บาท เป็นต้น ซึ่งผลตอบแทนดังกล่าวเกินกว่าอัตราที่ระเบียบของสหกรณ์กำหนดกำหนดไว้ว่า ต้องไม่เกินร้อยละ 4 ต่อปี ประกอบกับไม่เป็นไปตามประกาศของนายทะเบียนสหกรณ์ จึงออกคำสั่งนายทะเบียนสหกรณ์ยกเลิกสหกรณ์ออมทรัพย์การค้าธุรกิจ บริการและผลิตภัณฑ์ผสมผสาน จำกัด แล้ว
“กสส. จะดำเนินการตามนโยบายของนางสาวมนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ย้ำให้ตรวจสอบเชิงลึกสหกรณ์ทุกแห่ง หากสหกรณ์ใดไม่สามารถปิดบัญชีรายปีทุกปีได้” นายวิศิษฐ์กล่าว. – สำนักข่าวไทย