กรุงเทพฯ 30 เม.ย.-อสมท ประชุมผู้ถือหุ้น E-AGM ป้องกันความเสี่ยงโควิด-19 อสมท ยืนยันไม่เข้าข่ายฟื้นฟูกิจการมีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินเกือบ 3 เท่า
พล.ต.อ.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ประธานกรรมการ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยคณะกรรมการ, นายสิโรตม์ รัตนามหัทธนะ กรรมการ และรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ และคณะผู้บริหาร ร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2564 ในรูปแบบผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (E-AGM) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ณ ห้องออดิทอเรียม บมจ. อสมท โดยบริษัทได้ให้ข้อมูลผลการดำเนินงานปีที่ผ่านมา และแนวโน้มธุรกิจปีนี้แก่ผู้ถือหุ้น พร้อมเดินหน้าแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคต
นางสาว สุนทรียา วงศ์ศิริกุล รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายงานการเงินและปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน อสมท ชี้แจงแนวทางการดำเนินการ ว่าจากผลกระทบโควิด-19 กระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณา ซึ่งที่ผ่านมา อสมท ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างองกร์ ลดรายจ่าย ร่วมมือกับพันธมิตร หารายได้เพิ่มทั้งต่อยอดด้านข่าว ด้านบันเทิง รายการต่างๆ และการขายสินค้า ปีนี้จะหารายได้เพิ่มจากธุรกิจดิจิทัล ให้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วอยู่ที่ร้อยละ 9 และรักษาระดับรายได้จากธุรกิจเดิมให้ได้มากที่สุด และเดินแผนตาม 5 ยุทธศาสตร์ หลัก ได้ แก่ การร่วมมือพันธมิตร ,เพิ่มความสามารถในการสร้างผลกำไร ,การสร้างเสถียรภาพทางการเงิน,การสร้างพัฒนาคอนเทนต์และการปรับเปลี่ยนและพัฒนาศักยภาพองค์กร
ส่วนข้อซักถามของผู้ถือหุ้นที่ว่า อสมท จะมีแผนฟื้นฟูกิจการหรือไม่และจะมีสภาพ เหมือนการบินไทยจนอาจจะออกจากตลาดหลักทรัพย์ฯ หรือไม่นั้น นางสาว สุนทรียา ชี้แจงว่า ไม่สามารถเปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆได้ เพราะอยู่ในคนละธุรกิจ ยืนยัน อสมท ไม่มีแผนฟื้นฟูกิจการ เพราะสถานะไม่เข้าข่ายต้องฟื้นฟู ที่เกณฑ์หลักมี 3 ข้อ คือ ทรัพย์สินน้อยกว่าหนี้ สิน ,ส่วนทุนติดลบ และอัตราสภาพคล่องไม่มี โดยสัดส่วนต้องน้อยกว่า 1 ซึ่งในส่วน ของ อสมท ไม่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยปี 63 ในส่วนของทุนมีประมาณ 3,586 ล้านบาท, มีหนี้สินเพียง 3,267 ล้านบาท น้อยกว่า ทรัพย์สินเกือบ 3 เท่า โดยมีทรัพย์สิน 8,043 บาท ในขณะที่ สภาพคล่อง อสมท ก็มีมากกว่า 1 เท่า
สำหรับการดำเนินการหารายได้ และลดรายจ่ายยังดำเนินการต่อเนื่อง ซึ่งจากการทำแผนMSP ร่วมใจจาก ที่มีพนักงานเข้าร่วมกว่า 300 ในปีที่แล้ว บวกกับแผนลดรายจ่ายต่างๆ ก็คาดว่าจะสะท้อนภาพที่ดีมายังปี 64 ส่วนทรัพย์สินที่ดินทั้ง 3 พื้นที่มีการประเมินราคาใหม่เมื่อไตรมาส 4/63 มีมูลค่ารวม 5,729 ล้านบาท แยกเป็น ที่ดินย่านพระราม 9 มูลค่า 5,032 ล้านบาท ที่ดินย่านบางไผ่และหนองแขมมูลค่า697 ล้านบาท –สำนักข่าวไทย