วิกฤติเมียนมา-ความท้าทายของการประชุมอาเซียนพรุ่งนี้

จาการ์ตา 23 เม.ย. – อาเซียนเตรียมจัดประชุมสุดยอดว่าด้วยเมียนมาในวันพรุ่งนี้ (24 เม.ย.) ซึ่งจะเป็นครั้งแรกที่ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา จะเดินทางออกนอกประเทศหลังจากก่อรัฐประหาร


ตั้งแต่เกิดการรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 730 คน และสถานการณ์ไม่มีทีท่าจะทุเลา แม้จะมีแรงกดดันจากนานาชาติ โดยที่อาเซียนซึ่งเมียนมาเป็นสมาชิกอยู่ก็ได้รับแรงกดดันไปด้วย ทำให้ในวันพรุ่งนี้จะมีการประชุมสุดยอดนัดพิเศษ ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งพลเอกอาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้ก่อรัฐประหารมีกำหนดจะไปร่วมการประชุมด้วย แม้ว่าฝ่ายต่อต้านรัฐประหารจะคัดค้านเพราะเท่ากับว่าเป็นการรับรองความชอบธรรมของรัฐบาลทหาร

อย่างไรก็ตามจุดมุ่งหมายหลักของการประชุมครั้งนี้ คือ การยุติการปราบปรามประชาชน ในเมียนมา จากนั้นก็เปิดทางให้อาเซียนนำความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับชาวเมียนมา แล้วหาทางเปิดเจรจาระหว่างผู้ก่อรัฐประหารกับฝ่ายต่อต้าน


นาย อีแวน เอ ลักษมานะ (Evan A. Laksmana) นักวิชาการของศูนย์ยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่กรุงจาการ์ตา กล่าวว่า นี่จะเป็นช่วงเวลาสำคัญมาก ที่น่าจะได้ทางออกทางการทูต เพื่อปูทางสู่การเจรจาหรือข้อตกลงเพื่อยุติความรุนแรง

อย่างไรก็ตาม การที่อาเซียนไม่ได้เปิดทางให้ตัวแทนรัฐบาลพลเรือนและส.ส.ที่ถูกยึดอำนาจ ซึ่งเพิ่งตั้งรัฐบาลเงาในชื่อ “รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ” หรือ เอ็นยูจี (National Unity Government: NUG) เข้าร่วมประชุม จึงถูกตำหนิจากหลายฝ่ายเช่นกัน

ดร. ซาซ่า (Dr. Sasa) สมาชิกของเอ็นยูจี กล่าวว่า การที่อาเซียนเชิญ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย เข้าร่วมประชุมเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ เพราะผู้นำกองทัพพม่าเป็นอาชญากรที่สังหารผู้คนไปกว่า 730 คน แต่อาเซียนกลับไม่เชิญเอ็นยูจี ซึ่งเป็นรัฐบาลพลเรือนไปเข้าร่วม


นอกจากเสียงวิจารณ์นี้แล้ว สื่อต่างประเทศมองกันด้วยว่า การประชุมครั้งขาดน้ำหนักไปมากเมื่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย และ นาย โรดริโก ดูเตอร์เต ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ จะไม่เข้าร่วม นอกจากนั้นเป็นเรื่องยากที่ผู้นำอาเซียนจะสามารถสร้างแรงกดดันกต่อผู้นำทหารเมียนมาได้ และในที่สุดแล้วอาจจะทำให้อาเซียนต้องสูญเสียความน่าเชื่อถือในเวทีโลก.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก