กรุงเทพฯ 16 เม.ย. – บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ ‘TIDLOR’ เตรียมเสนอขายหุ้น IPO ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาของหุ้นในกลุ่มธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ ช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นที่ 34.00 – 36.50 บาทต่อหุ้น เปิดจองแบบเดียวกับหุ้นORวิธีจัดสรรแบบ Small Lot First วันที่ 22 – 26 เมษายนนี้ คาดเข้าเทรดวันแรก 10 พ.ค.
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.เงินติดล้อ กล่าวว่า เงินติดล้อเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกันครบวงจร ที่มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 เมื่อคำนวณจากยอดหนี้คงค้างในปี 2562 (อ้างอิงข้อมูลจากโอลิเวอร์ ไวแมน) ส่วนธุรกิจนายหน้าประกันภัยมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ได้แก่ ประกันวินาศภัยแก่ลูกค้ารายย่อย ประกันชีวิตแก่ลูกค้าสินเชื่อ ประกันภัยรถยนต์ภาคบังคับและภาคสมัครใจ ประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคล โดยเงินติดล้อ เป็น 1 ใน 3 ผู้นำธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยที่จำหน่ายแก่ลูกค้ารายย่อย และในปี 2562 – 2563 เบี้ยประกันวินาศภัยที่จัดเก็บได้มีอัตราเติบโตสูงกว่าการเติบโตของภาพรวมเบี้ยประกันวินาศภัยทั้งตลาด 12.5 เท่า โดยมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เงินติดล้อจะสามารถสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนได้ในอนาคต
ทั้งนี้ เงินติดล้อ ได้วางกลยุทธ์รักษาความเป็นผู้นำธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ผ่านการขยายเครือข่ายอีกประมาณ 500 แห่งภายในปี 2566 เพิ่มตัวแทนและพนักงานขายทางโทรศัพท์ และการลงทุนด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี พัฒนาแพลตฟอร์มทางการเงินและเปลี่ยนผ่านกระบวนต่างๆ สู่ดิจิทัล (Digital Transformation) โดยการลงทุนอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างประสบการณ์ซื้อสินค้าและบริการจากหลากหลายช่องทางแก่ลูกค้า พร้อมสร้างความแข็งแกร่งให้แพลตฟอร์มนายหน้าประกันภัยและมุ่งสู่การเป็นนายหน้าประกันภัยชั้นนำของประเทศไทย นอกจากนี้ เงินติดล้อยังมองหาโอกาสในการสร้างการเติบโตจากการควบรวมธุรกิจหรือการเข้าซื้อกิจการในเชิงกลยุทธ์เพื่อขยายผลิตภัณฑ์และการให้บริการ และพัฒนาศักยภาพทางเทคโนโลยี ทั้งในประเทศและตลาดอื่นในภูมิภาคอาเซียนหากมีโอกาสที่เหมาะสม
นายอนุวัฒน์ ร่วมสุข กรรมการผู้จัดการ ประธานสายตลาดทุนกลุ่มธุรกิจการเงินเกียรตินาคินภัทร ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหลักของ บมจ.เงินติดล้อ (TIDLOR) เปิดเผยว่า แผนการเสนอขายหุ้นไอพีโอครั้งนี้คาดว่าจะเปิดซื้อขายวันแรกช่วงวันจันทร์ที่ 10 พ.ค.64 จำนวนหุ้นรวมไม่เกิน 1,043.54 ล้านหุ้น (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน 136.11 ล้านหุ้น) จะแบ่งเป็นการขายหุ้นให้นักลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors จำนวน 626 ล้านหุ้น คิดเป็น 69% ผู้ลงทุนสถาบัน 95.90 ล้านหุ้น คิดเป็น 10.6% ผู้มีอุปการคุณของบริษัทฯ 13.61 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.5% บุคคลที่มีความสัมพันธ์ของบริษัทฯ 13 ล้านหุ้น คิดเป็น 1.4% พนักงานบริษัทฯ 33.37 ล้านหุ้น คิดเป็น 3.7% บุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดสรรจำหน่ายหลักทรัพย์ 79.03 ล้านหุ้น คิดเป็น 8.7% และผู้จองซื้อรายย่อย 46.50 ล้านหุ้น คิดเป็น 5.1%
ทั้งนี้รายย่อยจองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 22-26 เม.ย.64 ผ่านทางช่องทางออนไลน์ของธนาคารกรุงศรีฯ ผ่านแอปพลิเคชั่น KMA, ธนาคารกสิกรไทยผ่านทางเว็บไซต์ kmyinvest และบริษัทหลักทรัพย์กรุงศรีฯ กำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้นเบื้องต้นที่ 34.00-36.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวมไม่เกิน 35,480-38,089 ล้านบาท มูลค่ามาร์เก็ตแคปราว 78,845-84,643 ล้านบาท โดยจะใช้วิธีสรรหุ้นแบบ Small Lot First กำหนดจำนวนจองซื้อหุ้นขั้นต่ำที่ 1,000 หุ้น คิดเป็นมูลค่า 36,500 บาทที่ราคาเสนอขายสูงสุด และทวีคูณ 100 หุ้นจนกว่าหุ้นจะหมด
สำหรับคาดว่าการประกาศราคาขายสุดท้ายและรายชื่อผลการจัดสรรผู้จองซื้อรายย่อย ในวันที่ 28 เม.ย. https://www.settrade.com ผู้สนใจลงทุนสามารถศึกษาข้อมูลจากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และหนังสือชี้้ชวนของ TIDLOR ที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. และมีผลบังคับใช้แล้วได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. www.sec.or.th และสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและความเคลื่อนไหวของ TIDLOR ได้ที่ https://www.tidlorinvestor.com/
เงินติดล้อและผู้ถือหุ้นเดิมที่เสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ได้ร่วมลงนามในสัญญาลงทุนในหุ้นกับนักลงทุนสถาบันคุณภาพที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศไทยและในต่างประเทศที่เป็น Cornerstone Investors รวม 32 ราย มูลค่ารวมกว่า 22,800 ล้านบาทที่ราคา 36.50 บาท เป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายหุ้นเบื้องต้น หรือคิดเป็นประมาณ 69.0% ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ (ไม่รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) โดย IPO ของหุ้น TIDLOR จะมีมูลค่าการเสนอขายรวมไม่เกิน 35,481 – 38,090 ล้านบาท (รวมการจัดสรรหุ้นส่วนเกิน) ซึ่งนับเป็น IPO ของหุ้นในหมวดธุรกิจเงินทุนและหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าเสนอขายสูงที่สุด 5 อันดับแรกในประวัติศาสตร์ตลาดทุนไทย
ทั้งนี้ Cornerstone Investors ของ TIDLOR ประกอบด้วยนักลงทุนสถาบันที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น FIL Investment Management, JP Morgan Asset Management, Lion Global Investors Limited, Neuberger Berman เป็นต้น รวมถึงนักลงทุนสถาบันชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ บลจ. บัวหลวง บลจ. กสิกรไทย บลจ. ไทยพาณิชย์ บลจ. เอไอเอ (ประเทศไทย) บลจ. กรุงไทย บลจ. เอ็มเอฟซี เป็นต้น
ภายหลังไอพีโอผู้ถือหุ้นใหญ่ 1.ธนาคารกรุงศรีฯ จะเหลือสัดส่วนหุ้นถือครอง 30% และ Siam Credit Access เหลือ 25% โดยเงินติดล้อจะมีสภาพคล่อง(Free Float) หลังไอพีโอมากถึง 45% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วทั้งหมด –สำนักข่าวไทย