ผู้ตรวจการแผ่นดิน ไม่เป็นเครื่องมือทางการเมือง


สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน 9 เม.ย.- “พล.อ.วิทวัส” ปลื้ม 21 ปี ผู้ตรวจการแผ่นดิน แก้ปัญหาประชาชนและการเมืองที่เกิดจากข้อกฎหมายและรัฐธรรมนูญ ย้ำยึดหลักนิติธรรม ไม่เป็นเครื่องมือทางการเมือง เผยเสนอ ศบค.กำหนดมาตรการเข้มคุมโควิด-19 เห็นด้วยนโยบายปิดสถานบันเทิงสกัดเชื้อ



พล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงานฯ ได้จัดงานทำบุญภายใน เนื่องในโอกาสครบรอบ 21 ปี การสถาปนาสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล โดยนมัสการพระเมธาวินัยรส (สุเทพ ปวิสิโก) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นประธานพิธีสงฆ์ พร้อมบรรยายธรรมในหัวข้อ “วิถีธรรม วิถีไทย แบบนิวนอร์มอล” เพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและปฏิบัติหน้าที่แก่ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่

พล.อ.วิทวัส กล่าวว่า กว่า 21 ปี ที่องค์กรผู้ตรวจการแผ่นดิน มุ่งมั่นทำงานด้วยความเป็นอิสระ เป็นกลาง เป็นธรรม ขับเคลื่อนสังคมไทยให้ตั้งอยู่บนความสุจริต หลักสิทธิมนุษยชนและธรรมาภิบาล พร้อมยกระดับการทำงานของผู้ตรวจการแผ่นดินไทยสู่ระดับสากล สร้างความเชื่อมั่นในเวทีนานาชาติ โดยตั้งแต่ปี 2543 จนถึงมีนาคม 2564 ได้แก้ปัญหาประชาชนแล้ว 49,916 เรื่อง จากทั้งหมด 52,102 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 2,186 เรื่อง โดยหน่วยงานที่ถูกร้องเรียนมากที่สุด 3 ลำดับแรก คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมการปกครอง และกรมที่ดิน



พล.อ.วิทวัส พอใจการทำงานของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ผ่านมา โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน เนื่องจากรัฐธรรมนูญให้อำนาจผู้ตรวจการแผ่นดิน สามารถรักษาสิทธิเสรีภาพประชาชนได้มากขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน จึงให้โอกาสผู้ตรวจฯ เสนอแก้ไขกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบคำสั่งต่างๆ ที่หน่วยงานของรัฐได้ดำเนินการและก่อให้เกิดภาระแก่ประชาชนเกินสมควร ซึ่งไม่มีองค์กรใดมีอำนาจหน้าที่เท่าผู้ตรวจการแผ่นดิน และจะเห็นได้ว่า การแก้ไขปัญหาอันเนื่องจากกฎข้อบังคับและกฎหมายในอดีตที่ออกจากสถานการณ์ในขณะนั้น เมื่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลง ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการที่ประชาชนไปบังคับใช้กฎหมาย รวมทั้งมีการส่งเรื่องที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ และส่งผลให้ศาลรัฐธรรมนูญออกคำวินิจฉัยที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ประชาชน


“การที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยมองว่า สำนักงานผู้ตรวจฯ ไม่ใช่เครื่องมือทางการเมือง เพราะก่อนที่จะส่งไปจะพิจารณาว่าปัญหาที่เกิดขึ้นเกิดจากข้อกฎหมายและหลักนิติธรรมหรือไม่ แม้จะถูกกฎหมาย แต่ไม่ถูกหลักนิติธรรม ก็ควรจะส่งไปตัดสินโดยศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเชื่อว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะสามารถคลี่คลายปัญหาความตึงเครียดทางการเมือง การเมืองก็คือการสร้างความมั่นคง ประโยชน์ให้กับประเทศชาติ” พล.อ.วิทวัส กล่าว

ประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยังเปิดเผยมติผู้ตรวจการแผ่นดินที่มีคำวินิจฉัยในการประชุมเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ที่ผ่านมา หลังพบมีการติดเชื้อโควิดในคลัสเตอร์ใหม่ที่เกิดจากสถานบันเทิง ผับ บาร์ ซึ่งก็น่าเป็นห่วง โดยได้รวบรวมข้อเท็จจริงแล้วพบว่า ในสถานที่แคบๆ บางแห่ง ที่ไม่สามารถเว้นระยะห่างตามมาตรการของ ศบค.ได้ และมีนักท่องเที่ยวเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก รวมทั้งไม่สวมหน้ากาก มีการใช้แก้วเครื่องดื่มเดียวกัน ซึ่งมีจำนวนมากกว่าปกติ 2-3 เท่า ด้วยเหตุนี้ ทางผู้ตรวจฯ จึงมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมไปยัง ศบค. ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่าเรื่องของผับ บาร์ ควรมีการจำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ ในกรณีหากยังให้เปิดต่อ คงไว้ซึ่งมาตรการเว้นระยะห่าง การควบคุมเครื่องเสียง ระยะเวลาการเปิด-ปิด ต้องเป็นไปอย่างเข้มงวด



“ทราบว่าวันนี้ทางรัฐบาลก็เห็นสอดคล้องกับผู้ตรวจการแผ่นดิน และยังใช้มาตรการที่เข้มข้นมากกว่าอีก คือ ปิดสถานบันเทิงบางแห่ง บางพื้นที่ที่มีความสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ซึ่งผู้ตรวจการแผ่นดินก็เห็นชอบด้วย โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ก็จะทำให้การติดเชื้อจากสถานบันเทิงน่าจะน้อยลง แต่ในส่วนของร้านอาหารไม่น่าจะอยู่ในข่ายเดียวกับสถานบันเทิง“ พล.อ.วิทวัส กล่าว


เมื่อถามถึงกรณีรัฐมนตรีและคนดังปกปิดไทม์ไลน์ พล.อ.วิทวัส เห็นว่า เรื่องไทม์ไลน์เป็นเรื่องสิทธิส่วนตัว แต่สิ่งสำคัญจะเห็นได้ว่า การติดเชื้อโควิดครั้งนี้ไม่ได้มาจากประชาชนระดับล่าง เช่น ตลาดนัดชุมนุม ที่เคยกลัวกัน แต่กลับติดเชื้อจากสถานบันเทิง จนทำให้มีผู้ใหญ่ที่เข้าไปใช้บริการติดเชื้อ ซึ่งสถานที่ที่ท่านเข้าไปควรคำนึงว่าต้องไม่สุ่มเสี่ยงมาก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2

หนุ่มใหญ่ควบเก๋งเผลอเหยียบผิดพุ่งทะลุกำแพงอาคารจอดรถดิ่งตกจากชั้น 2 โชคดีบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่ส่งรักษาตัวที่ รพ.เจ้าพระยา

อาม่าแจ้งความ “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธีสูญ 60 ล้าน

อาม่าวัย 77 ปี โร่แจ้งความเอาผิด “หมอดูฮวงจุ้ยชื่อดัง” หลอกทำพิธี-แนะซื้อวัตถุมงคลแล้วไม่ได้รับของ สูญเงินกว่า 60 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

เรือใบอิตาลีที่สวยงามที่สุดในโลกเดินทางถึงภูเก็ตแล้ว

ภูเก็ตคึกคัก เรือใบอิตาลีที่ขึ้นชื่อว่างดงามที่สุดลำหนึ่งของโลก ออกเดินทางมาแล้วรอบโลก ได้เข้าจอดเทียบท่าจังหวัดภูเก็ต โดยมีทัพเรือภาคที่ 3 ให้การต้อนรับทหารเรืออิตาลีกว่า 150 นาย อย่างอบอุ่นพร้อมเปิดให้ประชาชนขึ้นชมเรือฟรีได้ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (6 พ.ย.)

พระเปย์สีกา ช่องโหว่ผลประโยชน์ในดงขมิ้น

รองเจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่งในมหาสารคาม ขอลาสิกขากลางดึก หลังถูกแฉ เป็นพระปลัดใจป๋า เปย์สีกาไม่อั้น ขณะที่รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ สั่งตรวจสอบว่า เป็นเงินส่วนตัว หรือ เงินวัด เพราะจะมีความผิดแตกต่างกัน

“สันธนะ” เปิดใจหลังเคลียร์ใจ “ชูวิทย์” กลับไทยขึ้นศาล

“สันธนะ” เผย นอนคิดมา 1 คืนเริ่มใจอ่อนรับคำขอโทษ “ชูวิทย์” รับรู้ถึงความจริงใจ แต่คดีอาญาถอนฟ้องไม่ได้ ต้องปล่อยไปตามกฎหมาย

โผล่อีก! ผู้เสียหายถูก “หมอดูฮวงจุ้ย” คนดังหลอก

เหยื่อโผล่เพิ่ม ถูกหมอดูฮวงจุ้ยคนดัง หลอกปรับฮวงจุ้ยบ้าน สูญเงิน 350,000 บาท มอบหมายทนายส่งเรื่องฟ้องทั้งคดีแพ่งและอาญา