เชียงใหม่ 31 มี.ค.- สถานการณ์ไฟไหม้ป่าที่เชียงใหม่ ล่าสุดยังพบการลักลอบเผาป่าต่อเนื่อง ส่งผลให้คุณภาพอากาศเชียงใหม่แย่ติดอันดับ 2 ของโลก
สภาพท้องฟ้าตัวเมืองเชียงใหม่ตั้งแต่ช่วงเช้าเต็มไปด้วยหมอกควันไฟป่า จนได้กลิ่นควันไฟ ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง มองไม่เห็นดอยสุเทพ ประชาชนมีอาการแสบตา และจมูก ขณะที่การตรวจสอบปัจจัยในการเกิดหมอกควัน ยังพบว่าเกิดจากลักลอบเผาป่าที่มีมากถึง 108 จุด ใน 26 ตำบล 12 อำเภอ ซึ่งพื้นที่ที่พบการเผามากที่สุดคืออำเภอเชียงดาว รองลงมาเป็นอำเภอแม่แตง 20 จุด และอำเภอพร้าว 17 จุด ส่วนอำเภอสะเมิง ยังพบการเผาในพื้นที่เดิม 4 จุด แม้เจ้าหน้าที่จะใช้ความพยายามในการควบคุมไฟป่าในวงจำกัด ด้วยการระดมใช้ทั้งกำลังภาคพื้นดิน และนำเฮลิคอปเตอร์ แบบเคเอ 32 ของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยขนน้ำ 3,000 ลิตรใน 1 นาทีจากแหล่งน้ำใกล้เคียงบินไปดับไฟตามสันดอย ซึ่งเป็นจุดที่เจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเข้าไปไม่ถึง มากถึง 12 เที่ยว กระทั่งสามารถควบคุมให้อยู่ในวงจำกัดได้ แต่ยังต้องเฝ้าระวังต่อเนื่อง เพราะสาเหตุอย่างที่นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบอกคือ ค่อนข้างมั่นใจว่า ไฟป่าที่เกิดขึ้นครั้งนี้มีโอกาสเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเพียง 1% แต่มีโอกาสสูงที่จะเกิดจากมีคนจุดไฟเผาป่า ท่ามกลางอากาศที่แห้งแล้งและมีใบไม้ทับถมซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เนื่องจากป่าแถบนี้ไม่เคยเกิดไฟไหม้มา 3 ปี แต่พอเกิดแล้วในครั้งนี้ไฟลามหนัก สร้างความเสียหายหลายร้อยไร่ ส่งผลให้อากาศที่เชียงใหม่ยังแย่ต่อเนื่อง โดยกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ ระบุว่าค่าฝุ่นพิษ PM2.5 ใน 3 ตำบลของอำเภอเมืองเชียงใหม่ คือ ศรีภูมิ, สุเทพ, ช้างเผือก เช้านี้วัดได้ 91-101 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งอยู่ในเกณฑ์สีแดง มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ส่วนบริเวณ อบต.บ้านจันทร์ อำเภอกัลยานิวัฒนา วัดค่าได้สูงถึง 445 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรหรือสูงกว่า 8 เท่าของค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ส่วนราชการถึงขั้นต้องเตือนให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงปิดประตูหน้าต่าง สวมหน้ากากอนามัย และงดกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้แรงหนัก ขณะที่ดัชนีชี้วัดคุณภาพอากาศทั่วโลก รายงานว่าคุณภาพอากาศที่เชียงใหม่ แย่เป็นอันดับ 2 ของโลก
ด้านพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กำชับเจ้าหน้าที่ให้ดูแลควบคุมไฟป่าในพื้นที่ตำบลสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่แล้ว ส่วนปัญหาชายแดนไทย-เมียนมา หลังมีผู้ลี้ภัยจากการสู้รบอพยพเข้ามาตามแนวใช้แดนนั้น ยืนยันว่าไทยได้ให้ความช่วยเหลือดูแลคนที่เข้ามาตามมนุษยธรรม
ขณะที่เชียงราย หลายพื้นที่ค่าฝุ่นพิษกลับมาวิกฤติ โดยเฉพาะตำบลเวียงพางคำ โป่งงาม อำเภอแม่สาย กลับมาวิกฤติอีกครั้งจากปัญหาหมอกควันที่ลอยข้ามแดน ซึ่งผลการตรวจวัดค่าหมอกควันและฝุ่นพิษ PM2.5 ที่สถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย เมื่อช่วงก่อนเที่ยงวัดค่าได้ 413 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ทำให้ทั่วเมืองแม่สายและฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็กมีหมอกควันสีเทาปกคลุม จนมองไม่เห็นเจดีย์ชะเวดากอง ขณะที่จังหวัดยังเร่งประชาสัมพันธ์งดเผาทุกชนิดไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน และประกาศให้ประชาชนงดออกทำกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะผู้ป่วยระบบทางเดินหายใจ คนชราและเด็ก.-สำนักข่าวไทย