กรุงเทพฯ 24 มี.ค.- กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ขานรับนโยบายให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ ดูแลตั้งแต่การวิจัย พัฒนา ปลูก สกัด แปรรูป เป็นผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างรายได้ให้เกษตรกร เตือนเกษตรกรอย่าหลงเชื่อการหลอกขายเมล็ดพันธุ์กัญชง
นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และประธานกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุข มี “นโยบายกัญชาเพื่อการแพทย์และกัญชงเพื่อเศรษฐกิจ” มุ่งใช้ประโยชน์กัญชงให้คุ้มค่า
ด้าน นพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า กัญชงเป็นพืชที่นำไปใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน เช่น เปลือก ลำตัน เส้นใย ใช้ทำเครื่องนุ่งห่ม ช่อดอก นำมาสกัดสาร CBD ใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ อาหาร เครื่องสำอาง น้ำมันเมล็ดกัญชง แปรรูปเป็นอาหาร และเครื่องสำอาง โดยกฎกระทรวงเปิดกว้างให้กับผู้ขออนุญาต ทั้งประชาชน เกษตรกร ภาครัฐ หรือเอกชน สามารถมาขออนุญาตได้ โดยหากพื้นที่ปลูกอยู่ในกรุงเทพฯ สามารถยื่นขออนุญาตที่ อย. ส่วนต่างจังหวัดยื่นได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ จะตรวจประเมินพื้นที่ที่จะปลูก ต้องมีหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ของผู้ขออนุญาตที่ถูกต้องตามกฎหมาย เช่น โฉนดที่ดิน
และตั้งแต่ 29 มกราคม ที่กฎกระทรวงกัญชงมีผลบังคับใช้ทั่วประเทศมีผู้มายื่นขออนุญาตปลูกแล้วจำนวนทั้งสิ้น 18 รายใน 7จังหวัด พื้นที่ประมาณ 900 ไร่ โดยมีทั้งเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน และเอกชน
ด้านนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะเข้ามาดูแลในเรื่องความเสี่ยง ตั้งแต่เรื่องมาตรฐานของเมล็ดพันธุ์กัญชง ช่วยวิจัยสายพันธุ์ที่เหมาะสม ให้ความรู้ระบบการเพาะปลูก ในแต่ละสภาพพื้นที่ การดูแลรักษา ตลอดจนการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการอนุญาตการปลูกกัญชง.-สำนักข่าวไทย