แนะร้านอาหารปรับบริการแนวใหม่


นนทบุรี 15 มี.ค. – ปลัดพาณิชย์แนะผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารรับการบริโภควิถีปกติใหม่ เพิ่มช่องทางขายผ่านระบบออนไลน์ และเดลิเวอรี่ เพื่อดันธุรกิจรอดเติบโตได้ยามวิกฤต


นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้ง 2 ครั้ง ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจเป็นอย่างมาก เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงสู่การบริโภควิถีปกติใหม่ New Normal มีการเว้นระยะห่างทางสังคมและใช้เวลาอยู่ในที่พักอาศัยกันมากขึ้น แต่ธุรกิจร้านอาหารยังมีแนวโน้มเติบโตต่อได้หากสามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ โดยจำเป็นต้องปรับวิธีการบริหารจัดการร้านอาหารและนำแพลตฟอร์มออนไลน์มาช่วยขยายโอกาสทางการตลาดมากขึ้น

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดำเนินการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “Smart Restaurant Plus” หลักสูตร 6 วัน (36 ชั่วโมง) จำนวน 2 รุ่น คือ รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 15 – 30 มีนาคม 2564 และรุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 21 เมษายน – 6 พฤษภาคม 2564 โดยได้รับความร่วมมือจากแม็คโคร โฮเรก้า อคาเดมี่ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจอาหารแบบครบวงจรมาถ่ายทอดความรู้ นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจาก บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ เจ้าของแอปพลิเคชันบริการสื่อและจัดส่งอาหาร Robinhood และบริษัท วีเชฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำระบบฟู้ดเซอร์วิสแพลตฟอร์มและฟู้ดทรัค สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญมาร่วมเผยเคล็ดลับและแนวทางการปรับตัวให้ธุรกิจเติบโตในสภาวะวิกฤติ พร้อมฝึกปฏิบัติด้านการถ่ายภาพอาหารและการออกแบบครัว เพื่อใช้ทำการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์เฟซบุ๊ก และไลน์


อย่างไรก็ตาม เป็นที่ทราบโควิดทำธุรกิจร้านอาหารไม่สามารถมีหน้าร้านเพียงอย่างเดียว ผู้ประกอบธุรกิจจำเป็นต้องมีช่องทางการขายที่หลากหลาย โดยเฉพาะผ่านระบบออนไลน์ และเมื่อเกิดวิกฤติขึ้น ร้านอาหารไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ที่สามารถปรับตัวเข้าสู่ระบบการขายแบบเดลิเวอรี่ได้อย่างรวดเร็วก็จะสร้างยอดขายให้เติบโตได้แบบก้าวกระโดด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าทักษะในการบริหารจัดการร้านอย่างรอบด้าน และการปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่คนทำธุรกิจต้องเข้าใจ โดยปัจจุบันมีนิติบุคคลที่ประกอบธุรกิจร้านอาหาร จำนวนทั้งสิ้น 16,541 ราย มีทุนจดทะเบียนมูลค่า 108,714.46 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564) และมีแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจร้านอาหารเพิ่มขึ้น . – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง