ปูพรมตรวจร้านนวด-ร้านอาหาร ย่านห้วยขวาง จับแรงงานผิดกฎหมาย 17 คน

กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – ตำรวจ สน.ห้วยขว้าง สนธิกำลังหลายหน่วยงาน ปูพรมตรวจร้านนวดและร้านอาหาร ในพื้นที่ห้วยขวาง จับแรงงานต่างชาติลักลอบค้าแรงงานผิดกฎหมาย 17 คน พบชาวจีน 2 คน เป็นเชฟทำอาหารและเป็นผู้จัดการร้านอาหารจีน


ตำรวจ สน.ห้วยขวาง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน สนธิกำลังปูพรมตรวจร้านนวดแผนไทย และร้านอาหารจีนในพื้นที่ห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยมีเป้าหมายเข้าตรวจค้นทั้งหมด 9 ร้าน พบการกระทำความผิด 3 ร้าน จับแรงงานสัญชาติเมียนมา 4 คน สัญชาติลาว 2 คน และคนพื้นที่สูงอีก 5 คน เข้ามาประกอบอาชีพโดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วนเป้าหมายร้านอาหารเข้าตรวจคนทั้งหมด 4 ร้าน จากการตรวจสอบพบมีจำนวน 3 ร้าน จับชาวเมียนมาไม่มีใบอนุญาตในการทำงาน และชาวจีนอีก 2 คน ซึ่งเป็นคนทำอาหารหรือเชฟ และผู้จัดการของร้านอาหาร ตำรวจควบคุมตัวผู้กระทำความผิดทั้งหมด 17 คน มาลงบันทึกจับกุม และสอบปากคำ


พันตำรวจเอก ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผู้กำกับการ สน.ห้วยขวาง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาตำรวจ สน.ห้วยขวาง ได้เฝ้าระวังและสืบสวนหาข้อมูลอย่างต่อเนื่อง เกี่ยวกับการเข้ามาของคนต่างด้าว ลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย จนกระทั่งได้รับการยืนยันจากข้อมูลฝ่ายสืบสวน เกี่ยวกับร้านค้าที่อาจจะกระทำความผิด กำลังหลายฝ่ายเข้าตรวจสอบในวันนี้จนสามารถจับบุคคลต่างชาติลักลอบเข้ามาทำงานโดยผิดกฎหมายได้มากถึง 17 คน ส่วนใหญ่ต่างชาติจะเข้ามาในวีซ่านักท่องเที่ยว และลักลอบทำงานโดยผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอาชีพสงวนคนไทย เช่น ร้านนวด ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย ร้านค้าหาบเร่แผงลอย ซึ่งตำรวจต้องเข้มงวด เนื่องจากเป็นการแย่งอาชีพของคนไทย และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจพื้นฐาน หลังจากนี้จะต้องสอบปากคำขยายผลเอาผิดไปถึงผู้ประกอบการ รวมถึงผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดเพิ่มเติม

นายณฐกร จานเขื่อง นักวิชาการแรงงานชำนาญการ รักษาการนักวิชาการแรงงานชำนาญการพิเศษ กลุ่มงานควบคุมตรวจสอบการทำงานของคนต่างด้าว กรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า พฤติกรรมของผู้ที่ลักลอบเข้ามาค้าแรงงานส่วนใหญ่มักเข้ามาในหนังสือเดินทางประเภทวีซ่านักท่องเที่ยว และแอบเข้ามาทำงาน หากเป็นชาวจีน ส่วนชาวเมียนมา ส่วนใหญ่มักจะลักลอบทำงานโดยไม่มีใบอนุญาต และไม่ได้ขึ้นบัญชีแรงงานตามที่กฎหมายกำหนด พฤติกรรมคนกลุ่มนี้มาจากโลกนี้และหลีกเลี่ยง เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบเสร็จแน่นอนว่าผู้ประกอบการและนายจ้างมีความคิดด้วยเช่นกัน มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาทต่อต่างด้าว 1 คน หากทำผิดซ้ำมีโทษถึงจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับตั้งแต่ 50,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ คนต่างด้าวที่ลักลอบทำงานมีโทษปรับสูงสุด 50,000 บาท ถูกส่งตัวกลับประเทศต้นทาง

ส่วนแรงงานที่ลูกจับได้ในครั้งนี้ทั้ง 17 คน พนักงานสอบสวนจะนำตัวทั้งหมดส่งฝากครั้งต่อศาลแขวงพระนครเหนือ และเตรียมส่งตัวให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองผลักดันกลับประเทศต้นทาง.-420-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนเฝ้า​ระวัง​พายุฤดูร้อน กระทบ​ 53 จังหวัด​

กรมอุตุฯ ประกาศฉบับ 7 เตือนเฝ้า​ระวัง​พายุฤดูร้อน​ พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก มีผลกระทบ​ 53 จังหวัด​ ระหว่าง​ 29​ มี.ค.-1 เม.ย.68​

ช่วยผู้รอดชีวิตรายแรก เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ ถล่ม

กทม. 28 มี.ค. – ช่วยได้แล้ว 1 ราย ผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่ม เป็นคนงานที่ติดอยู่ในช่องลิฟต์ เร่งนำส่ง รพ. อัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิต ณ เวลา 19.25 น. เพิ่มขึ้นเป็น 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย สูญหาย 117 ราย .-สำนักข่าวไทย

ระดมค้นหา 94 ชีวิต เหตุตึกถล่มย่านจตุจักร

เกาะติดเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่มจากแผ่นดินไหว จนท.ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ตัวเลข ปภ. คาดมีคนงานติดอยู่ในซาก 94 ราย ยังไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ยืนยันผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3 ราย ด้านนายกฯ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ก่อนเดินทางไปยังศูนย์บัญชาการแผ่นดินไหว กทม.

กรมอุตุฯ เฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก เขย่าแล้ว 21 ครั้ง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 21 ครั้ง นักวิชาการระบุ พลังงานของแผ่นดินไหวลดลงตามลำดับ แต่ที่น่าห่วงคือ โครงสร้างของอาคารต่างๆ โดยเฉพาะอาคารสูงในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน ต้องมีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง