รมต.ใหม่ต้องนำทัพภาคใต้ได้

กรุงเทพฯ 4 มี.ค.-“นิพิฎฐ์” ชี้คนที่จะเป็นรมต.แทน “ถาวร” ต้องมีบารมี จับมือ “นิพนธ์”นำทัพปชป.ในภาคใต้ได้ ย้ำนับถอยหลังถ้าแตกแยก


นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ “สำนักข่าวไทย” เกี่ยวกับบุคคลที่จะเป็นรัฐมนตรีแทนนายถาวร เสนเนียม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ว่า ผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีในนามพรรคครั้งนี้ ต้องเป็นที่รู้จัก มีบารมีและต้องจับมือกับนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นรัฐมนตรีอีกคนของภาคใต้ เพื่อนำทัพเข้าสู่การเลือกตั้งในสมัยหน้าได้ เพราะเหลือเวลาไม่เกิน 2 ปีจะต้องเลือกตั้ง

นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า การเลือกตั้งสมัยหน้าจะเหนื่อยกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพราะตอนเลือกตั้งครั้งที่แล้ว คะแนนนิยมของพรรคยังดีอยู่ มาเสียในช่วงโค้งสุดท้าย ส่วนผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีจำเป็นต้องเป็นส.ส.หรือไม่ ต้องแล้วแต่หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรครวมทั้งที่ประชุมร่วมระหว่างกรรมการบริหารและที่ประชุมส.ส. ซึ่งต้องดูที่ความเหมาะสมเพราะเลขาธิการพรรคก็ไม่ได้เป็นส.ส. แต่สิ่งสำคัญต้องทำงานได้ อย่างไรก็ตาม เห็นว่า สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ ไม่ควรมีความขัดแย้ง แตกแยกกันเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี ส่วนตัวผมไม่ว่าจะมีตำแหน่งหรือไม่ ก็ยังทำงานอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์


“โดยหลักเราไม่ควรทำให้ประชาชนไม่สบายใจ ไม่ควรแตกแยกขัดแย้งอีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะเรื่องตำแหน่ง ไม่ควรมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้น ต้องทำให้คนเห็นภาพความสามัคคี อันหนึ่งอันเดียวกันเท่านั้น แต่ถ้าคนที่เป็นส.ส.และที่ไม่เป็นส.ส.ของพรรคไม่ตระหนักในเรื่องนี้ ผมว่านับถอยหลังกันได้เลย โดยเฉพาะภาคใต้ เพราะผมพูดเสมอว่าพรรคประชาธิปัตย์จะฟื้นได้ ภาคใต้ต้องฟื้นก่อน ถ้าภาคใต้ไม่ฟื้น ก็ไม่ต้องพูดถึงภาคอื่นว่าจะฟื้นหรือไม่” นายนิพิฎฐ์ กล่าว

ส่วนการเลือกตั้งซ่อมส.ส.นครศรีธรรมราชจะเป็นตัววัดฐานเสียงในภาคใต้ของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า การเลือกตั้งตรงนี้เป็นส่วนหนึ่ง แต่การเลือกตั้งใหญ่ยังมีเวลาอีก 1-2 ปีที่จะทำงาน สิ่งสำคัญที่ตนวิเคราะห์ไว้คือเรื่องของรัฐธรรมนูญ อาจจะเป็นตัวแปร เพราะหากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านอาจจะมีผล เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีเงื่อนไขการร่วมรัฐบาลคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หากรัฐธรรมนูญไม่ผ่านก็เท่ากับว่าเป้าหมายไม่บรรลุผล และต้องกลับมาดูว่าอะไรเป็นต้นเหตุ ซึ่งหากแก้ไขไม่ได้เพราะเสียงโหวตในสภาไม่ให้แก้ ถือเป็นสิ่งที่พรรคจะต้องกลับมาทบทวน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้ในพรรคประชาธิปัตย์มีบุคคลที่เป็นแคนดิเดต อย่างน้อย 3 คน เนื่องจากเป็นส.ส.มาไม่น้อยกว่า 5 สมัย อาทิ นายสินิตย์ เลิศไกร ส.ส.สุราษฎร์ธานี ที่นำทีมส.ส.ของพรรคเข้าสภาได้ทุกคน นายประกอบ รัตนพันธ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช ที่มีส.ส.5 คน แต่ต้องดูว่าจะสามารถนำพาพรรคชนะการเลือกตั้งซ่อมได้อีก 1 ที่นั่งหรือไม่ และนายนริศ ขำนุรักษ์ ส.ส.พัทลุงที่มีความใกล้ชิดกับหัวหน้าพรรค และเป็นมุสลิม ซึ่งจะเป็นการให้ความสำคัญกับพี่น้องชาวมุสลิม อย่างไรก็ตาม พรรคประชาธิปัตย์จะประชุมและพิจารณาบุคคลดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีภายหลังจากการเลือกตั้งซ่อมส.ส. นครศรีธรรมราชเสร็จเรียบร้อย.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง