เคาะแล้ว! จัดชัทเทิลบัสรับส่งจากสถานีกลางบางซื่อไปอนุสาวรีย์-จตุจักร-หมอชิต

กรุงเทพฯ 3  มี.ค.-“คมนาคม” เตรียมความพร้อมการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีแดงปีนี้ ประสาน ขสมก.-ขนส่งทางบก จัดรถเมล์ ขสมก. ให้บริการเขื่อมต่อทั้ง 13 สถานีรถไฟสายสีแดง พร้อมจัดชัทเติ้ลบัสรับส่งคนจากสถานีกลางบางซื่อไป อนุสาวรีย์-จตุจักร-หมอชิต


นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมอนุกรรมการเดินรถไฟสายสีแดง และอาคารสถานีบางซื่อ เพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินทางเชื่อมต่อสถานีรถไฟสายสีแดง ให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการเดินทางใช้งานระบบรถไฟและสถานีกลางบางซื่อ ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางช่วงการเปลี่ยนผ่านจากการกำหนดให้ สถานีหัวลำโพงมาเป็นสถานีศูนย์กลางบางซื่อ นั้นในที่ประชุมเห็นควรว่าในช่วงระยะแรก กำหนดให้รถไฟทางไกล ทั้งหมดให้เปลี่ยนมาใช้สถานีกลางบางซื่อ เป็นศูนย์กลางการให้บริการแทนสถานีหัวลำโพง

ส่วนรถไฟชานเมืองที่ให้บริการเชื่อมระหว่างจังหวัดใกล้เคียงกับ กรุงเทพมหานคร(กทม.) จะยังให้ขบวนรถไฟชานเมืองบางเส้นทางคงเข้าสู่สถานีรถไฟหัวลำโพง เช่น สายปราจีนบุรี – สถานีหัวลำโพง , สถานีภาชี – สถานีหัวลำโพง , นครปฐม – สถานีหัวลำโพง สาเหตุที่ให้รถไฟชายเมืองบางเส้นทางให้บริการถึงสถานีหัวลำโพง เพื่อบริการแก่ประชาชนที่ใช้บริการเชิงสังคม  ทั้งในช่วงเช้า กลางวัน เย็น ทั้งนี้ทางคณะอนุกรรมการฯ อยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะกำหนดความถี่และจำนวนตู้ของขบวนรถไฟแต่ละขบวนเพิ่มขึ้นอย่างไร เพื่อให้บริการประชาชนอย่างเพียงพอมากที่สุด และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด


นอกจากนั้น ได้ให้ กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) , องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) กำหนดเส้นทางการให้บริการรถเมล์ ขสมก. เข้าถึงสถานีรถไฟสายสีแดง จำนวน 10 สถานี ของรถไฟสายสีแดง เส้นทางบางซื่อ – รังสิต และ 3 สถานี ของรถไฟสายสีแดง เส้นทางบางซื่อ – ตลิ่งชัน เพื่อให้มีบริการประชาชนที่มาใช้บริการเข้าสู่สถานีทุกสถานีอย่างเพียงพอ ขณะเดียวกันหากมีรถเมล์ ขสมก. ที่ให้บริการเข้าถึงสถานีรถไฟสีแดงมีเดิมอยู่แล้วก็ให้คงอยู่ หรือ หากจะมีการปรับจากเส้นทางเดิม ที่มีอยู่ให้เข้าถึงสถานีบางซื่อ ก็สามารถดำเนินการได้ทันที ซึ่งทาง ขสมก จะปรับเส้นทางรวม 24 เส้นทางให้มีจุดจอดบริการที่สถานีกลางบางซื่อ และกำหนดเส้นทาง shuttle bus วิ่ง ให้บริการเชื่อมระหว่างสถานีกลางบางซื่อ เชื่อมสามเหลี่ยมพหลโยธิน กม.11 ตลาดจตุจักร สถานีขนส่งหมอชิต รวมถึงการให้บริการ Shuttle bus ให้เขื่อมกับ ศูนย์กลางเมืองอื่นๆเช่น อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เป็นต้น

นายสรพงศ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ได้มีการกำหนดการแก้ไขทางเชื่อมเข้าออก สถานีรถไฟรังสิต อย่างเร่งด่วน โดยเร่งรัดให้การรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) ประสานกับ กรมทางหลวง(ทล.) , กรมทางหลวงชนบท (ทช.)ในการปรับปรุงทางเข้าออก ให้เกิดความสะดวกสบายกับประชาชนที่จะมาใช้บริการ ทั้งนี้ การดำเนินการของคณะอนุกรรมการฯ จะเป็นการทำงานระยะยาว ในการดูแลให้การเปลี่ยนผ่าน ในช่วงการเปิดให้บริการสถานีกลางบางซื่อ และะรถไฟสายสีแดงราบรื่น โดยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนสูงสุด ตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง