กรุงเทพฯ 24 ก.พ. – อธิบดีกรมธนารักษ์ รับปากผู้แทนประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนหลังสถานีขนส่งหมอชิตเก่าว่า รัฐจะไม่เวนคืนที่ดินท้องที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร ในการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพฯ (จตุจักร) หรือ หมอชิต 2 กลับมาใช้พื้นที่สถานีขนส่งหมอชิตเก่า ซึ่งเป็นที่ดินของกรมธนารักษ์
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ รับฟังความคิดเห็นของผู้แทนประชาชนที่อาศัยในชุมชนหลังสถานีขนส่งหมอชิต (เดิม) โดยรับปากว่า จะไม่มีการเวนคืนที่ดินในท้องที่แขวงจอมพล เขตจตุจักร ตามที่มีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) กำหนดเขตที่ดินเวนคืนจากการย้ายสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) หรือ หมอชิต 2 กลับมาใช้พื้นที่สถานีขนส่งหมอชิต (เดิม) ซึ่งทำให้ประชาชนคลายกังวล
ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ราชพัสดุ ซึ่ง ครม.มีมติให้กรมการขนส่งทางบก ส่งคืนให้กรมธนารักษ์มาพัฒนาจัดหาประโยชน์ เนื้อที่ 63-2-65 ไร่ ซึ่งได้ทำสัญญากับบริษัท บางกอกเทอร์มินอล จำกัด (BKT) ก่อสร้างและบริหารโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน ในปี 2539 หลังจากที่ BKT ชนะการประมูล เสนอค่าธรรมเนียมการจัดประโยชน์ 550 ล้านบาท ก่อสร้างอาคารสำนักงาน อาคารสถานีขนส่ง พื้นที่พาณิชย์ และที่จอดรถ
นายยุทธนา กล่าวต่อว่า สัญญาดังกล่าวหยุดชะงักชั่วคราว เมื่อปี 2544 สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา วินิจฉัยว่า สัญญาก่อสร้างและบริหารโครงการพัฒนาระบบสาธารณูปโภค พื้นที่สถานีขนส่งหมอชิต (เดิม) ไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่มีผลผูกพันในแง่สัญญาต่อกัน โดยกรมธนารักษ์ ต้องดำเนินโครงการดังกล่าวใหม่ตามขั้นตอนของ พ.ร.บ.ว่าด้วยการให้เอกชนเข้าร่วมงานหรือดำเนินการในกิจการของรัฐ ต่อมาในปี 2556 ศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยสถานะของสัญญาว่า เมื่อยังไม่บอกเลิกสัญญา BKT และกรมธนารักษ์ยังคงต้องปฏิบัติตามสัญญาต่อไป
จากการประชุมเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระหว่างกรมธนารักษ์ กับกรมการขนส่งทางบก บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กรุงเทพมหานคร พร้อมร่วมแก้ปัญหา โดยบริษัท BKT ยินดีลดพื้นที่ก่อสร้างลงจากสัญญาเดิม เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน จึงจะเร่งทำการประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม (EIA) จากนั้นจะลงนามในสัญญากับกรมธนารักษ์ใหม่ แล้วกรมธนารักษ์จะทำหนังสือถึงกรุงเทพมหานครให้ยกเลิกการเวนคืน. – สำนักข่าวไทย