โคราช 24 มิ.ย. – ชาวบ้านหนองพลวงน้อย อ.เมืองนครราชสีมา ติดตามความคืบหน้าจากศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด หลังถูกอดีตผู้นำท้องถิ่นฮุบที่แบบแจ้งการครอบครองที่ดิน หรือ ส.ค.1 ไปครอบที่ตัวเองแปลงเป็นโฉนด ส่วนแปลงเดิมของชาวบ้าน กลับมี ส.ป.ก. โผล่ทับกลางหมู่บ้าน
ท่ามกลางชาวบ้านที่รอคิวติดต่อเจ้าหน้าที่ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา เพื่อลุ้นเคลียร์เอกสารสิทธิ ส.ป.ก.4-01 ให้เรียบร้อย แต่สำหรับบุญทวี ชาวบ้านหนองพลวงน้อย ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง มีวัตถุประสงค์ที่ต่างออกไป เมื่อต้องการเพิกถอน ส.ป.ก. ที่ทับบ้านของตัวเองที่เป็น ส.ค.1 เนื้อที่ 50 ตารางวา เมื่อ 2 ปีก่อน บวกกับที่ดินข้างเคียง จุดนี้เป็น ส.ป.ก. เพียง 2 ไร่เศษเท่านั้น
บุญทวี ยืนยันว่าอยู่บ้านตลอด แต่ไม่เคยเห็นเจ้าหน้าที่ออกมารังวัด หรือประสานงานกับผู้ครอบครองที่ดินผืนเดียวกันนี้ เป็น ส.ค.1 หมายเลข 13 เนื้อที่กว่า 10 ไร่ แต่อดีตผู้นำท้องถิ่น และเครือญาติ สามารถนำไปจดเป็นโฉนด น.ส.3 ก ถึง 63 ไร่เศษ
หลักฐานเหล่านี้ได้มาจากสำนักงานที่ดินจังหวัดนครราชสีมา โดยผู้เสียหายรายนี้ ยังถูก ส.ป.ก. ทับบ้านอีกหลังเนื้อที่ 150 ตารางวา รวมอยู่กับแปลง ส.ค.1 เดิม กับชาวบ้านคนอื่นอีกเกือบ 20 ครัวเรือน เลขที่ 24 เนื้อที่ 11 ไร่ เป็นความโชคดีของผู้เสียหายที่ไม่มีการทำลายต้นขั้ว จึงพบว่า ส.ค.1 ฉบับนี้บินไปครอบไร่มันของอดีตผู้นำท้องถิ่น และบวกจาก 11 ไร่ เป็น 86 ไร่ ปัจจุบันมีสถานะเป็นโฉนด ส.ค.1 เดิม มีชาวบ้านพื้นที่ข้างเคียงทั้ง 4 ทิศ แต่แปลงใหม่ล้วนติดกับที่สาธารณประโยชน์ ณ เวลาดำเนินการ ช่างรังวัดสลักไว้ว่าทับซ้อนป่าสงวนแห่งชาติ แต่การทักท้วงไม่เป็นผล มีการเดินหน้าต่อ จนเป็น น.ส.3 ก ในที่สุด
ชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่ากลางหมู่บ้านชานเมืองแบบนี้ ส.ป.ก.แปลงเล็กแปลงน้อย โผล่กลางหมู่บ้านได้อย่างไร คนส่วนใหญ่ไม่กล้าพูด เพราะเกรงกลัวอิทธิพล จึงอดทนมาเกือบ 40 ปีแล้ว โดยมีแกนนำต่อสู้ระดับผู้ใหญ่บ้าน และลูกบ้าน ก็เคยถูกยิงเสียชีวิตมาแล้วถึง 2 คน
อย่างไรก็ตาม การเข้าพบเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดนครราชสีมา วันนี้มีข่าวดีเมื่อตัวแทนเจ้าพนักงานที่ดิน แจ้งว่า กำลังส่งเรื่องให้อธิบดีกรมที่ดิน เพื่อพิจารณาเพิกถอน คืนความชอบธรรมให้ชาวบ้าน.-สำนักข่าวไทย