ฮ่องกงเล็งลดข้าราชการ 10,000 คน และผลักดัน AI

Hong Kong's Financial Secretary Paul Chan

ฮ่องกง 26 ก.พ.- ฮ่องกงตั้งเป้าลดค่าใช้จ่ายด้วยการลดจำนวนข้าราชการลง 10,000 คน หวังควบคุมยอดขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น และเตรียมจะผลักดันการใช้งานปัญญาประดิษฐ์หรือเอไอ (AI) ครั้งใหญ่


นายพอล ชาน รัฐมนตรีการคลังของเขตบริหารพิเศษฮ่องกงประกาศแผนการดังกล่าวระหว่างการแถลงงบประมาณประจำปีในวันนี้ว่า เป็นหนทางที่ชัดเจนไปสู่เป้าหมายของการฟื้นสมดุลทางการคลังอย่างก้าวไปข้างหน้าและตามที่วางแผนไว้ โดยจะลดจำนวนข้าราชการลง 10,000 คน ภายในเดือนเมษายน 2570 คิดเป็นร้อยละ 2 ของจำนวนข้าราชการในปี 2569 และ 2570 ขณะเดียวกันจะระงับการขึ้นเงินเดือนในปีนี้

นายชานกล่าวว่า โครงการเสริมสภาพคล่องทางการคลังดังกล่าวจะลดงบประมาณรายจ่ายลงได้ทั้งหมดร้อยละ 7 นับตั้งแต่ปัจจุบันไปจนถึงปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2571 การตัดลดงบประมาณรายจ่ายจะวางพื้นฐานการคลังที่ยั่งยืนให้แก่การพัฒนาในอนาคต หลังจากรัฐบาลมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการใช้ที่ดินลดลงมาก จนทำให้ยอดขาดดุลงบประมาณสูงถึง 87,200 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 378,850 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากที่คาดการณ์ว่า จะขาดดุล 48,100 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 209,000 ล้านบาท)


ฮ่องกงมีรายได้จากค่าธรรมเนียมการใช้ที่ดินที่ได้จากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ลดลงตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากราคาที่พักอาศัยลดลงเกือบร้อยละ 30 ปกติแล้วค่าธรรมเนียมนี้เป็นแหล่งรายได้หลักของรัฐบาลฮ่องกง ครองสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 20 แต่ปัจจุบันลดลงเหลือเพียงร้อยละ 5 เท่านั้น ส่วนทุนสำรองการคลังของฮ่องกงขณะนี้อยู่ที่ราว 647,300 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 2.8 ล้านล้านบาท)

รัฐมนตรีคลังฮ่องกงกล่าวด้วยว่า เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลจีนที่ส่งเสริมให้พัฒนาความสามารถในการพึ่งพาตนเองเรื่อง AI และไฮเทค ฮ่องกงจะยกระดับจุดแข็งให้เป็นแพลตฟอร์มสากลสำหรับการเพิ่มพูนการพัฒนาอุตสาหกรรม AI ด้วยการจัดสรรงบประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 4,340 ล้านบาท) ตั้งสถาบันวิจัยและพัฒนา AI

รอยเตอร์ระบุว่า ฮ่องกงกำลังหาทางรับมือกับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนแอ การเป็นเศรษฐกิจเปิดที่มีขนาดเล็กทำให้ฮ่องกงมีความเปราะบางต่อแรงปะทะจากภายนอก ซึ่งรวมถึงการที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัว และเปราะบางต่อความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพิ่มการกดดันจีนเรื่องการค้า เทคโนโลยี และภูมิรัฐศาสตร์.-814.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ช่วยผู้รอดชีวิตรายแรก เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ ถล่ม

กทม. 28 มี.ค. – ช่วยได้แล้ว 1 ราย ผู้ที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่ม เป็นคนงานที่ติดอยู่ในช่องลิฟต์ เร่งนำส่ง รพ. อัปเดตตัวเลขผู้เสียชีวิต ณ เวลา 19.25 น. เพิ่มขึ้นเป็น 4 ราย บาดเจ็บ 9 ราย สูญหาย 117 ราย .-สำนักข่าวไทย

ระดมค้นหา 94 ชีวิต เหตุตึกถล่มย่านจตุจักร

เกาะติดเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่ พังถล่มจากแผ่นดินไหว จนท.ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิต ตัวเลข ปภ. คาดมีคนงานติดอยู่ในซาก 94 ราย ยังไม่สามารถติดต่อได้ ขณะที่ยืนยันผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 3 ราย ด้านนายกฯ ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ ก่อนเดินทางไปยังศูนย์บัญชาการแผ่นดินไหว กทม.

กรมอุตุฯ เฝ้าระวังอาฟเตอร์ช็อก เขย่าแล้ว 21 ครั้ง

กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 21 ครั้ง นักวิชาการระบุ พลังงานของแผ่นดินไหวลดลงตามลำดับ แต่ที่น่าห่วงคือ โครงสร้างของอาคารต่างๆ โดยเฉพาะอาคารสูงในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้นดินอ่อน ต้องมีการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรง

นายกฯ ยันไม่เกิดสึนามิแน่ เหตุเป็นแผ่นดินไหวบนบก

นายกฯ เผยสถานการณ์แผ่นดินไหวคลี่คลาย ประชาชนกลับเข้าที่พัก-อาคารสูงได้ พร้อมเปิดพื้นที่สวนสาธารณะให้อยู่ ขณะรถไฟฟ้าเปิดให้ บริการอีกครั้งวันพรุ่งนี้ สั่งเร่งทยอยนำคนออกจากตึกถล่ม จตุจักร ก่อนลงพื้นที่ด่วน ยันไม่เกิดสึนามิแน่ เหตุเป็นแผ่นดินไหวบนบก