มท.ลุยสำรวจที่ดินลดเหลื่อมล้ำ เล็งเป้าปีนี้ออกโฉนด 86,000 แปลง

กทม.25 พ.ค. – “มหาดไทย” เดินหน้าสำรวจที่ดินลดเหลื่อมล้ำ เล็งเป้าปีนี้ออกโฉนด 86,000 แปลง ใน 69 จังหวัด พร้อมเปิดสถิติ 40 ปีออกโฉนดแล้วกว่า 14 ล้านแปลง 71 ล้านไร่


น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และโฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยเดินหน้าตามนโยบายของรัฐบาลในการกระจายการถือครองที่ดินทำกิน เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ได้มอบหมายให้กรมที่ดินเร่งรัดโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินทั่วประเทศ เพื่อให้การออกโฉนดที่ดินให้กับประชาชนเป็นไปตามเป้าหมาย สร้างความมั่นคงเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดิน สามารถเป็นหลักประกันการเข้าถึงแหล่งเงินทุน และนำไปลงทุนประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงต่อไป

ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 กรมที่ดินได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อจัดทำโครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน เป้าหมายรวม 86,000 แปลง มีพื้นที่ดำเนินการทั้งสิ้น 69 จังหวัด ยกเว้น 8 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี แม่ฮ่องสอน สมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และภูเก็ต เนื่องจากมีพื้นที่ในการออกเอกสารสิทธิ์หนาแน่นแล้ว และเป็นจังหวัดที่มีเขตป่าไม้ครอบคลุมเกือบทั้งจังหวัด


มีผลการดำเนินงานงบประมาณ 68 ตั้งแต่เดือน ธ.ค. 67 – เม.ย. 68 แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ 1)โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดิน และรังวัดรูปแปลงโฉนดที่ดินให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ให้ครอบคลุมทั่วประเทศซึ่งมีเป้าหมาย 70,000 แปลง ออกโฉนดแล้ว 42,412 แปลง เนื้อที่ประมาณ 109,914 ไร่ 2)โครงการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในจ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และอำเภอนาทวี จะนะ เทพา และอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งมีเป้าหมายจำนวน 16,000 แปลง ระหว่างเดือน ธ.ค. 67 – เม.ย. 68 ดำเนินการออกโฉนดแล้ว 11,025 แปลง เนื้อที่ประมาณ 14,659 ไร่

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับแนวทางการดำเนินงานในระยะต่อไป ยังคงเหลือเอกสาร ที่ยังไม่เป็นโฉนดที่ดินประมาณ 561,989 แปลง เนื้อที่ประมาณ 2,809,944.5 ไร่ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมที่ดินคาดว่าจะดำเนินการเดินสำรวจออกโฉนดที่ดินได้เสร็จสิ้นทั่วประเทศภายใน 7 ปี ซึ่งจะนำข้อมูลตามโครงการบอกดินที่ประชาชนได้แจ้งไว้ เรื่องร้องเรียนร้องทุกข์ ถวายฎีกา และข้อมูลที่สำนักงานที่ดินจังหวัด/สาขา/ส่วนแยก ได้รับแจ้งข้อมูลไว้มาประกอบการพิจารณาดำเนินการ

“ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2528 – 67 รวมระยะเวลา 40 ปี กระทรวงมหาดไทย โดยกรมที่ดิน ดำเนินการสำรวจและออกโฉนดที่ดินแล้ว 14,838,692 แปลง เนื้อที่ประมาณ 71,240,052 ไร่” น.ส.ไตรศุลี กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด เร่งอพยพประชาชน

9 ก.ย. – โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด บางพื้นที่ต้องอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่พบแล้วศพหนุ่มพิมายขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำป่าซัดตกท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน คลิปวิดีโอที่ชาวบ้านบันทึกไว้ได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (8 ก.ย.) ขณะน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมถนนในพื้นที่บ้านรังกาใหญ่ ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังจากมีฝนตกหนัก ระดับน้ำท่วมสูงและเชี่ยวกราก มีชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากไปบริเวณสี่แยกกลางหมู่บ้าน บ้านตะปัน ต.รังกาใหญ่ แม้ชาวบ้านจะเตือนและพยายามตะโกนห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง สุดท้ายถูกน้ำป่าซัดทั้งรถและคนลอยหายไปกับกระแสน้ำ กระทั่งช่วงเที่ยงคืนวันนี้ (9 ก.ย.) ระดับน้ำเริ่มลดลง ชาวบ้านพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง มีกุญแจเสียบคาอยู่ พร้อมกับถังน้ำมัน ลอยมาติดกำแพงโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต ชื่อนายสมชาย อายุ 35 ปี ถูกน้ำป่าซัดตกลงไปในท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลพิมาย เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต นาทีน้ำป่าไหลซัดคนลอยออกจากบ้านคลิปนาทีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน บ้านตะปัน หมู่ 5 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 ก.ย.) โดยจะเห็นว่าน้ำป่าที่ไหลมาจากพื้นที่ อ.ห้วยแถลง หลังจากมีฝนตกติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน […]

“แพทองธาร” เปิดใจหลังศาลพิพากษาคดีชั้น 14

ศาลฎีกา สนามหลวง 9 ก.ย.- “แพทองธาร” สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ลดโทษ “ทักษิณ” เหลือ 1 ปี ครอบครัวยังห่วง-ภูมิใจในผลงานประวัติศาสตร์ รับเป็นนายกฯ คนแรกที่ต้องติดคุก แต่กำลังใจดี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าฟังคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ทางครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่อภัยโทษและลดโทษให้คุณพ่อ ซึ่งพวกเราทั้งครอบครัวสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ เรารู้สึกเรื่องนี้ในทุกๆวัน และขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจห่วงใยให้คุณพ่อและครอบครัวของเรา นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายทักษิณเป็นผู้นำจิตวิญญาณในเรื่องการเมือง ที่ผ่านมาผลงานต่างๆที่ทำเพื่อบ้านเมืองท่านยังเป็นคนที่นึกถึงบ้านเมืองเสมอ ในการหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนกินดีอยู่ดี ตัวดิฉันเอง และครอบครัวมีความเป็นห่วงคุณพ่อ และภูมิใจที่คุณพ่อได้สร้างประวัติศาสตร์มากมายให้ประเทศไม่ว่าจะเป็นนโยบายที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนในประเทศ วันนี้ก็เป็นประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องจำคุกเรื่องนี้ก็อาจจะค่อนข้างหนักนิดหนึ่ง แต่กำลังใจดีทั้งคุณพ่อและครอบครัว ส่วนตัวดิฉันและพรรคเพื่อไทยยังมุ่งหน้าทำงานต่อเป็นฝ่ายค้านและทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนตรวจสอบรัฐบาลต่อไปในส่วนของพรรคทุกคนมีกำลังใจดี ขอบคุณทุกภาคส่วนประชาชนทุกคนที่ให้ให้กำลังใจและคอยอยู่เคียงข้างกันตลอดที่ผ่านมา.-315 -สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” โพสต์น้อมรับคำพิพากษา

กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – “ทักษิณ” โพสต์น้อมรับคำพิพากษา สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกคงเหลือเวลา 1 ปี พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุน ทักษิณโพสต์ X ระบุ “พี่น้องประชาชนที่เคารพด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกแก่ผมคงเหลือเวลา 1 ปี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ต่อทั้งตัวผม และครอบครัว ผมขอน้อมรับและพร้อมเข้าสู่กระบวนการตามคำพิพากษาในวันนี้ ตลอดระยะเวลาของการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2544-2549 ผมพยายามผลักดันทุกนโยบายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทย ให้พรรคการเมืองแข่งขันกันด้วยนโยบาย สร้างประชาธิปไตยที่กินได้จากผลงานของรัฐบาลที่ทำได้จริง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุดในฐานะนักการเมืองจากการเลือกตั้งของประชาชน แม้ว่าทุกคดีจะเกิดขึ้นหลังการรัฐประหารรัฐบาลของผมเมื่อปี 2549 แต่วันนี้ผมขอมองไปข้างหน้า ให้ทุกอย่างที่ผ่านมามีข้อยุติ ทั้งการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และความขัดแย้งใดๆ อันเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับตัวผม ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนตลอดมา ขอบคุณนักการเมือง สมาชิกพรรคเพื่อไทย และเพื่อนมิตรทั้งหลายที่เคียงข้างกันทั้งในยามสุขและยามยาก ผมตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ เพื่อส่งกำลังใจให้ทุกคนเดินไปข้างหน้า ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ด้วยอุดมการณ์และจิตวิญญาณที่เรามีร่วมกันมา จนกว่าจะถึงวันที่เราได้เดินร่วมทางกันอีกครั้ง จากวันนี้แม้ผมจะไร้อิสรภาพ แต่ยังมีเสรีภาพทางความคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ผมจะรักษาความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อใช้เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ รับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ แผ่นดินไทย และประชาชนคนไทย […]

ศาลฎีกาฯ สั่ง “ทักษิณ” รับโทษ 1 ปี ชี้กระบวนการชั้น 14 มิชอบ

ศาลฎีกา 9 ก.ย.- ศาลฎีกานักการเมือง สั่ง “ทักษิณ” รับโทษ 1 ปี ชี้กระบวนการส่งรักษาตัวชั้น 14 มิชอบด้วย กม. – ไม่ได้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน-เพียงกล่าวอ้าง และเป็นโรคเรื้อรัง รักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ เจ้าตัวได้รับประโยชน์ไม่ต้องเข้าเรือนจำ เวลา 10.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ บค 1/2568 กรณีศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนว่า การบังคับโทษพันตำรวจโทหรือนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในคดีหมายเลขแดงที่ อม 4/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม 5/2551 และคดีหมายเลขแดงที่ อม 10/2552 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือไม่ โดยให้โจทก์ จำเลย ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ยื่นคำชี้แจงข้อเท็จจริง โจทก์ จำเลย ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทยใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ยืนคำชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลพร้อมเอกสารประกอบ ศาลไต่สวนพยานรวม 31 ปาก […]