ชัยนาท 21 ก.พ. – ภรรยาหลวงตำรวจ สภ.เมืองชัยนาท ที่แต่งงานซ้อน เข้าให้ถ้อยคำคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อพิจารณาความผิดทางวินัยของตำรวจคนดังกล่าว
จากกรณี พ.ต.อ.ปฏิกรณ์ หาญหัตถกิจ ผู้กำกับการ สภ.เมืองชัยนาท สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีสิบตำรวจตรีในสังกัดแต่งงานซ้อน ตามคลิปไลฟ์ของภรรยาหลวง เพื่อพิจารณาความผิดทางวินัย ความคืบหน้า วันนี้ (21 ก.พ.) ช่วงบ่าย พ.ต.ท.สมปอง นิลสนธิ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) หัวหน้างานสอบสวน สภ.เมืองชัยนาท ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ได้เชิญภรรยาหลวง แม่สามี และลูกสาวของสิบตำรวจตรี มาให้ถ้อยคำเกี่ยวกับกรณีนี้ดังกล่าว โดยให้นำหลักฐานทะเบียนสมรส และคลิปไลฟ์ในวันเกิดเหตุมามอบให้กับคณะกรรมการ เพื่อใช้ในการตรวจสอบด้วย
คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้เชิญภรรยาหลวง แม่สามี และลูกสาว เข้าให้ปากคำทีละคน แต่ไม่ได้ให้ทนายความเข้าร่วมฟังด้วย เนื่องจากเป็นการสอบทางวินัย ไม่ใช่คดีอาญา
นายอนุสรณ์ อะสุระพงษ์ ทนายความ เปิดเผยว่า ลูกความได้มาให้ถ้อยคำตามคำเชิญของตำรวจ เกี่ยวกับการสอบทางวินัยของสามี ส่วนเรื่องการฟ้องร้อง ไม่ได้มีการฟ้องร้องสามี แต่ฟ้องร้องเรียกค่าทดแทนจากฝ่ายหญิงเพียงคนเดียว ซึ่งคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดชัยนาท มีนัดขึ้นศาลในเดือนเมษายน 2564 โดยไม่มีการไกล่เกลี่ย
ส่วนเมื่อวานนี้ แม่สามีที่ได้รับฉายาในสังคมว่า “แม่ผัวแห่งชาติ” ซึ่งเธอเรียกตัวเองว่า “แม่ย่า” พร้อมด้วยสามี ลูกสะใภ้ และหลานสาวคนเล็ก ได้เดินทางไปที่วัดท่าชัย อ.เมืองชัยนาท เพื่อเข้าพบ พระครูสมุห์ พงศ์ยศ พลญาโณ เจ้าอาวาสวัดท่าชัย เพื่อกราบขอขมาที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ยืนด่า และตบหัวลูกชาย ระหว่างพระเจริญพระพุทธมนต์ในงานแต่ง ยอมรับเพราะวันนั้นขาดสติ ซึ่งเจ้าอาวาสก็อโหสิกรรมให้ เพราะเข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่ และชื่นชมว่าทำถูกต้องแล้ว ที่รู้จักใช้ปัญญาแยกแยะ ไม่เข้าข้างลูกที่กระทำผิด
แม่ย่า เปิดใจกับทีมข่าวว่า รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงบุกเข้าไปในบ้าน วินาทีที่เดินเข้าไปในบ้าน ระงับอารมณ์ไม่อยู่แล้ว จึงเข้าไปถามลูกชายว่าทำไมเอ็งทำเช่นนี้ เอ็งมีครอบครัวแล้ว ทำไมกล้าทำอย่างนี้ รู้มั้ยว่ามันผิด ซึ่งตนก็ไม่ได้อยากทำร้ายลูก แต่นาทีนั้นอารมณ์มันพุ่งขึ้นสุดๆ แล้ว จึงได้ลงมือไป ถึงจะรักลูกชายมากเพียงใด แต่ก็ต้องทำในสิ่งที่ถูกต้อง และสงสารลูกสะใภ้ ที่ถูกทำร้ายจิตใจมาตลอด แต่การกระทำของตนต่อหน้าพระสงฆ์ที่ทำไปด้วยความขาดสติ รู้สึกผิดจึงเดินทางเข้าพบพระครูสมุห์ พงศ์ยศ พลญาโณ เพื่อขอขมากับสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป. – สำนักข่าวไทย