กรุงเทพฯ 18 ก.พ. – โออาร์ ถูกผลกระกระทบ โควิด กำไรลด 19.32% เหลือ 8,791.07 ล้านบาท จ่ายปันผล 10 สตางค์ ด้าน บีซีพีจี คุย EBITDA 3,849 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อนุมัติปันผลเพิ่ม 0.17 บาท/หุ้น
น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ รักษาการแทน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563 ว่า บริษัทมีกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นของบริษัทใหญ่ 8,791.07 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.32% เนื่องจากมีรายได้ขายและบริการ 428,804 ล้านบาท ลดลง 148,330 ล้านบาท หรือลดลง25.7% จากปีก่อน .ในขณะที่ ไตรมาส 4/63 มีกำไรสุทธิ 2,923 ลบ. ขยายตัว 50% จากไตรมาส 4/62 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติ จ่ายปันผลจากกำไรสะสมเป็นเงินสด 0.10 บาท/หุ้นกำหนด กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) 16 มี.ค. 64 และกำหนดจ่ายปันผลวันที่ 28 เม.ย. 64 และจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น 7 เม.ย. 64
สำหรับสาเหตุหลัก ของผลประกอบการปี 63 คือ ราคาขายเฉลี่ยผลิตภัณฑ์น้ำมันดิบปรับตัวลดลงตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ทั้งจากสงครามราคาของกลุ่ม OPEC และรัสเซีย รวมถึงการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยปริมาณขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักปรับลดลง ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำมันอากาศยาน ดีเซล เบนซิน และแอลพีจี อย่างไรก็ตาม ไตรมาส 4/63 ดีเซล และเบนซิน กลับมามีปริมาณการขายเกือบเท่าช่วงก่อนโควิด-19 แล้ว นอกจากนี้ยังมีค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจําหน่ายที่สูงขึ้นจากการขยายสถานีบริการและร้านคาเฟ่ อเมซอน รวมถึงการจัดประเภทค่าใช้จ่ายตามมาตรฐานบัญชีใหม่ และมีผลขาดทุนจากตราสารอนุพันธ์ทางการเงินเพิ่มขึ้น จากการเริ่มใช้มาตรฐานการรายงานทางการเงินฉบับที่ 9 เครื่องมือทางการเงิน ตั้งแต่เดือนมกราคม 63
ด้านนายบัณฑิต สะเพียรชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดปี 2563 EBITDA โตขึ้นร้อยละ 30.2 จากปี 2562 อยู่ที่ 3,849 ล้านบาท ซึ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่รายได้รวมทั้งปีอยู่ที่ 4,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น ร้อยละ 23.5 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานปกติอยู่ที่ 1,959 ล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.5 เป็นผลจากการลงทุนในโครงการใหม่ๆ เช่น รับรู้ผลดำเนินการเต็มปี โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว “Nam San 3A” และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “ลมลิกอร์” และการเติบโตของโครงการลงทุนที่มีอยู่เดิม
บริษัท มีโครงสร้างทางการเงินที่เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น โดยส่วนของผู้ถือหุ้นเติบโตขึ้นเป็นระดับ 22,480 ล้านบาท เติบโต 45% โดยมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (Debt to Equity Ratio) อยู่ใน 1.27 เท่า พร้อมรองรับแผนการลงทุนในระยะ 5 ปี วงเงินประมาณ 40,000 ล้านบาท ที่สามารถทำให้บริษัทฯ มีความเติบโตอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่า adder หรือค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม ของโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์จะทยอยหมดลงไปก็ตาม เป้าหมาย EBITDA ของบริษัทฯจะยังคงเติบโตโดยเฉลี่ยร้อยละ15% ต่อปี ใน 5 ปีข้างหน้า
คณะกรรมการบีซีพีจีมีมติอนุมัติจ่ายปัน ผลประกอบการครึ่งหลังงปี 63 อัตราหุ้นละ 0.17 บาท และเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรก ปี 63 ที่ได้จ่ายไปแล้ว หุ้นละ 0.16 บาท รวมเป็นเงินปันผลที่จ่ายปี 2563 หุ้นละ 0.33 บาท กำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 3 มีนาคม 2564 . – สำนักข่าวไทย