กรุงเทพฯ 5 ก.พ.-ปิดทองหลังพระฯ ร่วมจ้างคนว่างงานจากโควิดพัฒนาแหล่งน้ำส่งเสริมอาชีพ ขยายผลช่วยเกษตรกรพื้นที่แล้งซ้ำซาก เสริมรัฐบาลขับเคลื่อนแผนจัดการน้ำ 20 ปี

นายการัณย์ ศุภกิจวิเลขการ ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ กล่าวเปิดตัว “โครงการฝ่าวิกฤตด้วยเศรษฐกิจและสังคมฐานรากให้ก้าวไปตามแนวพระราชดำริ” เพื่อจ้างงานผู้รับผลกระทบจากโควิด-19 ว่า ปิดทองหลังพระฯ กำลังดำเนินโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากร่วมกับหน่วยงานราชการ เอกชนและชุมชนอย่างครบกระบวนการ ตั้งแต่คัดเลือกผู้ว่างงานเพราะโควิด-19 จัดการอบรมการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ เทคนิคการพัฒนาแหล่งน้ำและการเกษตร พร้อมกับเชื่อมโยงเอกชนเข้ามาทำด้านการตลาดสินค้า ในครั้งนี้จ้างคนว่างงาน 612 คน ทำโครงการรวม 543 โครงการใน 9 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบของปิดทองหลังพระฯ ประกอบด้วยจังหวัดน่าน อุทัยธานี เพชรบุรี อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส

สำหรับโครงการนี้เป็นระยะที่ 2 ต่างไปจากครั้งแรกคือขยายพื้นที่เป้าหมายเดิมทำใน 3 จังหวัดเพิ่มเป็น 9 จังหวัด มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าและขยายพื้นที่รับน้ำมากกว่าโครงการแรกเกือบ 6 เท่า ในการดำเนินโครงการฯยังเน้นเรื่อง 4 ประสาน คือราชการ เอกชน ประชาชนและปิดทองหลังพระฯ ราชการในท้องที่และชุมชนมีบทบาทเป็นอย่างมากในการเสนอโครงการ โดยมีรวมกันมากถึง 1,084 โครงการแต่เมื่อพิจารณาในเรื่องความพร้อมด้านกายภาพและบุคลากรแล้ว มีความเห็นร่วมกันว่ามีโครงการเหมาะสมที่จะทำทันทีจำนวน 543 โครงการ

สำหรับแผนการทำงานระยะที่ 2 คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จในเดือนพ.ค.64 นี้ จะทำให้เกิดพื้นที่รับประโยชน์เพิ่มขึ้น 174,430 ไร่ เพิ่มปริมาณเก็บกักน้ำได้ 98.2 ล้านลูกบาศก์เมตรหรือเทียบเท่ากับปริมาณน้ำในเขื่อนกิ่วลม จังหวัดลำปาง

ปัจจุบันการสร้างเขื่อนขนาดนี้จะต้องใช้งบประมาณถึง 8,000 ล้านบาท แต่โครงการระยะ 2 ใช้งบฯเพียง 216 ล้านบาท ต่ำกว่าการสร้างเขื่อนที่มีความจุเท่ากันถึง 37 เท่า งบประมาณที่ใช้เป็นการจ้างงานและฝึกอบรม 52.6 ล้านบาท ค่าวัสดุปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำ 125.5 ล้านบาท ปัจจัยการผลิตด้านการเกษตรอีก 20 ล้านบาท
ผลจากการดำเนินงานโครงการคาดว่าจะสร้างแหล่งน้ำให้กับเกษตรกรรวม 39,855 ครัวเรือนเพิ่มขึ้นกว่าระยะแรกเกือบ 8 เท่า และจะสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรจากการมีน้ำในการปลูกพืชหมุนเวียนตลอดปีเพิ่มขึ้นปีละ 7,000 บาทต่อไร่ ดังนั้น ประเมินได้ว่าพื้นที่รับน้ำทั้ง 174,430 ไร่ จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละ 1,221 ล้านบาท

นายการัณย์ กล่าวด้วยว่า จากผลดำเนินงานที่ผ่านมาเป็นการสนับสนุนรัฐบาลในการขับเคลื่อนโครงการแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปี (พ.ศ. 2561– 2580) ผลเป็นที่น่าพอใจ คณะทำงาน จึงได้ศึกษาข้อมูลเพื่อเตรียมทำโครงการระยะที่ 3 ก่อนเสนอต่อคณะกรรมการของสถาบันฯ พิจารณาโครงการขยายผลที่ตั้งเป้าไปที่ 6 จังหวัดในลุ่มแม่น้ำมูล ที่ประสบปัญหาภัยแล้วซ้ำซาก คาดว่าจะมีน้ำให้เกษตรกรทำการเกษตรได้เกือบสองพันโครงการภายในปีนี้

น.ส.นูรีฮัน กาปิง อายุ 23 ปี พนักงานโครงการพื้นที่อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา กล่าวถึงการเข้าร่วมโครงการฯ ว่า ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำงานแนวนี้มาก่อน แต่ชอบที่จะได้ทำงานกับชุมชน ได้เรียนรู้ หลักการทรงงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 แนวพระราชดำริด้านการพัฒนาท้องถิ่น เรียนรู้การพูดอย่างไรเพื่อให้ชาวบ้านมาช่วยกันทำงาน เพราะเขาเห็นความสำคัญประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับเขา โดยตรง ส่วนปิดทองฯก็ช่วยสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ

นางนงนุช ลาวัลย์ อายุ 46 ปี พนักงานโครงการ จังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ทราบข่าวโครงการจึงศึกษาข้อมูลและสนใจสมัครมาเป็นพนักงานประสานงาน เนื่องจากมีประสบการณ์กับการทำงานกับชุมชนและมูลนิธิชัยพัฒนามาก่อน การทำงานกับชุมชนจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่ใหม่คือได้มาเรียนรู้กระบวนการทำงานแบบปิดทองหลังพระฯ ทั้งจากการอบรมและฝึกปฏิบัติการจริงในพื้นที่ อาทิ การสำรวจข้อมูลเศรษฐกิจและสังคม ปัจจุบันทำหน้าที่ประสานโครงการ 4 โครงการ ในอำเภอฆ้องชัยและยางตลาด
สำหรับโครงการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากที่ปิดทองหลังพระฯ ดำเนินการระยะแรกภายใต้โครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานรากเพื่อบรรเทาผลกระทบจากภาวะการว่างงงานของปัญหาโควิด-19 ใน 3 จังหวัด มีการจ้างงาน 369 คน สามารถปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำจำนวน 107 โครงการ มีผู้รับประโยชน์จำนวน 5,320 คน พื้นที่รับน้ำเพิ่มขึ้น 30,900 ไร่ เพิ่มปริมาณน้ำกักเก็บ 23.7 ล้านลูกบาศก์เมตร ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่เดือนมีนาคม – สิงหาคม 2563

ส่วนโครงการระยะที่ 2 ที่ดำเนินการอยู่นี้ มีชื่อว่า โครงการฝ่าวิกฤตด้วยเศรษฐกิจและสังคมฐานรากให้พัฒนาก้าวไปตามแนวพระราชดำริ ดำเนินการใน 9 จังหวัด มีการจ้างงาน 612 คน จะปรับปรุงและพัฒนาแหล่งน้ำจำนวน 543 โครงการ มีผู้รับประโยชน์รวม 39,855 ครัวเรือน พื้นที่รับประโยชน์รวม 174,430 ไร่ .-สำนักข่าวไทย