กระทรวงมหาดไทย 1 ก.พ.- รมว.มหาดไทย- รมว.คลัง ประชุมคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับผู้ว่าฯ-นายอำเภอ ทั่วประเทศ สร้างความเข้าใจโครงการเราชนะ ให้เข้าถึงประชาชนรวม 31.1 ล้านคน
พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมประชุมวีดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอและผู้ที่เกี่ยวข้องรวมทั้งกรุงเทพมหานคร เพื่อประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ตามโครงการเราชนะ ซึ่งเปิดให้ลงทะเบียนตั้งแต่วันที่ 29 มกราคมที่ผ่านมาให้ประชาชน และผู้ประกอบการ ร้านค้าบริการรายย่อย เข้าร่วมโครงการอย่างทั่วถึง ทุกกลุ่มเป้าหมาย รวม 31.1 ล้านคน วงเงิน 2แสน1หมื่น2ร้อยล้านบาท เพื่อช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน และเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจในระดับฐานราก ประกอบด้วย กลุ่มผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ได้รับวงเงินสิทธิผ่านบัตรฯ เข้าทุกวันศุกร์ ติดต่อกัน 8 สัปดาห์ โดยอัตโนมัติ กลุ่มผู้มีแอป “เป๋าตัง” ที่ใช้สิทธิ์โครงการคนละครึ่ง โครงการเราเที่ยวด้วยกัน และมีคุณสมบัติตามเงื่อนไข สามารถกดรับยืนยันสิทธิ์ผ่านแอป และ กลุ่มประชาชนที่ไม่ใช่กลุ่มที่ 1 และ 2 ลงทะเบียนออนไลน์ผ่าน www.เราชนะ.com
โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวว่า ต้องขอความร่วมมือกระทรวงมหาดไทยในการยืนยันการประกอบกิจการ และยืนยันผู้ประกอบการ อาทิ เป็นผู้ประกอบการร้านธงฟ้า ผู้ประกอบการโครงการคนละครึ่ง ผู้ประกอบการของกองทุนหมู่บ้านและวิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการบุคคลธรรมดาด้านขนส่งสาธารณะ อาทิ รถสามล้อถีบ , ผู้ประกอบการนิติบุคคลการขนส่งสาธารณะมวลชน เช่น รถไฟฟ้าในเขตเมืองโดยสารประจำทางสาธารณะและเรือโดยสารสาธารณะ และ ผู้ประกอบการประเภทบริการกลุ่มที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูลของภาครัฐ อาทิ ร้านตัดผม ร้านเสริมสวย ช่างซ่อม ตัดเย็บ งานก่อสร้างขนาดเล็ก ซักรีด โฮมสเตย์ หอพัก แมนชั่นอพาร์ทเม้นท์ แฟลต ทั้งนี้ ต้องไม่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล มีสถานประกอบการเป็นหลักแหล่งที่ชัดเจนและตรวจสอบได้ นอกจากนี้ ขอให้สนับสนุนชี้แจงรายละเอียดเชิญชวนผู้ประกอบการสมัครเข้าร่วมโครงการ รวมทั้งอำนวยความสะดวกธนาคารกรุงไทยในการออกหน่วยเคลื่อนที่เพื่อรับลงทะเบียนผู้ประกอบการ ร้านค้า บริการรายย่อย
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ ย้ำทุกจังหวัดต้องขับเคลื่อนโดยใช้เครือข่ายกำนันผู้ใหญ่บ้านและท้องถิ่นเพื่อร่วมกัน และช่วยกันให้โครงการเราชนะประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือประชาชนและกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เกิดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ ให้เศรษฐกิจเดินหน้าไปได้ รวมทั้งขอให้ศูนย์ดำรงธรรมรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนเฉพาะที่เกี่ยวกับโครงการเราชนะโดยใช้ระบบออนไลน์.-สำนักข่าวไทย