นครราชสีมา 27 ม.ค. – พบอีก 3 ราย ถูกเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุย้อนหลัง รวมกว่า 240,000 บาท โดยมีการฟ้องร้องต่อศาล และนัดไกล่เกลี่ยในวันที่ 18 ก.พ.นี้
เมื่อวานนี้ (26 ม.ค.) ที่ จ.นครราชสีมา กรณีผู้สูงอายุถูกเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ในพื้นที่ ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา โดยรายแรก นายมฤคินทร์ เขียนจอหอ อายุ 42 ปี ลูกชายของนางประจวบ ผะดาวัลย์ อายุ 73 ปี แจ้งว่า ผู้เป็นแม่ถูกเรียกเงินคืนย้อนหลังตั้งแต่เดือนเมษายน 2552 ถึงเดือนพฤศจิกายน 2563 เป็นระยะเวลา 11 ปี เป็นเงิน 76,400 บาท รวมดอกเบี้ยเป็นยอดเงินจำนวน 77,737 บาท โดยเมื่อปลายปี 2562 เทศบาลตำบลจอหอ มีหนังสือแจ้งว่า นางประจวบ ได้รับเงินบำนาญพิเศษ กรณี ร.ต.ต.สัมพันธ์ ผะดาวัลย์ รับราชการเป็นตำรวจตระเวนชายแดน เสียชีวิตลงจากการต่อสู้กับผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ ในพื้นที่ อ.นาแก จ.นครพนม เมื่อปี 2515 จึงไม่มีสิทธิรับเงินเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแม่ต้องรักษาอาการขาอ่อนแรง เดินไม่สะดวก ต้องใช้ไม้เท้าค้ำยัน มีรายได้จากเงินบำนาญพิเศษเพียงทางเดียว ทุกวันนี้เครียดมากจนนอนไม่หลับ เทศบาลตำบลจอหอ ขอเรียกเก็บเงินคืน 3 เดือนแรก ในอัตราเดือนละ 18,000 บาท จากนั้นเดือนที่ 4 เรียกเก็บ 1,100 บาท ซึ่งได้เจรจาขอผ่อนจ่ายเงินก้อน เพราะเป็นอัตราที่สูงเกินไป แต่เทศบาลฯ ไม่ยอม จึงส่งเรื่องไปฟ้องศาลแขวงนครราชสีมา และศาลมีหมายเรียกในฐานะจำเลยไปพบเพื่อไกล่เกลี่ยและสืบพยาน ในวันที่ 18 กุมภาพันธ์นี้
นอกจากนี้ยังพบว่า มีรายที่ 2 และ 3 ประกอบด้วย น.ส.วรรณภา สารเป็น อายุ 28 ปี ลูกสาวของนางสัมฤทธิ์ ภู่สว่าง อายุ 83 ปี ซึ่งแม่ได้ถูกเรียกคืนเงินสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ระยะเวลา 14 ปี เป็นเงินพร้อมดอกเบี้ย 83,383 บาท และรายที่ 3 คือ น.ส.สมหมาย สมบูรณ์รัมย์ อายุ 60 ปี ลูกสาวของนางก่วง สมบูรณ์รัมย์ อายุ 83 ปี ถูกเรียกคืนเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ระยะเวลา 14 ปี เป็นเงินพร้อมดอกเบี้ย 84,673 บาท โดย 2 รายหลัง ถูกเทศบาลตำบลจอหอ ฟ้องศาล และศาลนัดไกล่เกลี่ยในวันเดียวกัน. – สำนักข่าวไทย