รวบโจรบุกเดี่ยวชิงทองกว่า 100 บาท

อุบลราชธานี 20 ม.ค. – ตำรวจอุบลราชธานีตามรวบโจรควงปืนปลอมบุกเดี่ยวชิงทอง 119 เส้น มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท จากห้างดังใน อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา หลังหลบหนีมาหาเพื่อนที่อุบลราชธานี อ้างทำงานเป็นคนเชียร์แขกในสถานบันเทิง แต่เจอวิกฤติโควิด ทำให้ไม่มีงานทำ จึงตัดสินใจก่อเหตุ เบื้องต้นตรวจสอบพบทองยังอยู่ครบ


พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมผู้กำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี นำกำลังเข้าจับนายคุณสอบ หรือสอบ ดอกแก้วกลาง อายุ 63 ปี ชาว อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ได้ที่หน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ถนนพโลชัย ต.ในเมือง อ.เมืองอุบลราชธานี หลังก่อเหตุบุกเดี่ยวใช้ปืนพกสั้นจี้ชิงทองรูปพรรณ จากห้างทองเยาวราชกรุงเทพ สาขาโลตัส อ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ได้สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท จำนวน 57 เส้น และ 1 สลึง จำนวน 62 เส้น มูลค่ากว่า 2 ล้านบาท

ทั้งนี้ หลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การจับกุมคือ ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพขณะก่อเหตุได้เมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังพบรถจักรยานยนต์สีม่วง สภาพเก่า ไม่ติดป้ายทะเบียน จอดที่หน้าบ้านพักในหมู่บ้านเหล่า หมู่ 3 ต.จันอัด อ.โนนสูง อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุ 21 กิโลเมตร ตรงกับพาหนะของคนร้ายที่ใช้หลบหนี จึงประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาตรวจพิสูจน์ และเก็บลายนิ้วมือไว้เป็นหลักฐาน


จากนั้นตำรวจขยายผลตามยึดทองทองรูปพรรณที่จี้คืนได้จำนวน 98 เส้น โดยเป็นสร้อยคอทองคำหนัก 1-3 บาท น้ำหนักกว่า 100 บาทเศษ ที่ใส่ไว้ในถุงก๊อบแก๊บ เก็บไว้ในลิ้นชักหน้ารถยนต์นั่ง สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน กธ1072 ระยอง ที่ใช้เป็นพาหนะ ขับหลบหนีมาที่จังหวัดอุบลราชธานี และยังพบปืนปลอมขนาด 9 มม. พร้อมแม็กซ์บรรจุลูกกระสุนพลาสติก ที่นายคุณสอบใช้เป็นอาวุธบุกเข้าจี้ชิงทอง

สอบสวนรับสารภาพว่า เดิมทำงานเป็นพนักงานเชียร์แขกตามสถานอาบอบนวด รวมทั้งตามผับ บาร์ ของวงการคนกลางคืน และเคยมาทำงานอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อหลายปีก่อน ต่อมาได้ย้ายไปทำงานที่จังหวัดนครสวรรค์ กระทั่งเจอสถานการณ์โควิด-19 ทำให้มีงานทำบ้าง ไม่มีงานทำบ้าง โดยเฉพาะการระบาดรอบที่ 2 ส่งผลกระทบไม่มีรายได้ ประกอบกับด้วยอารมณ์ชั่ววูบ ตัดสินใจเอาปืนปลอมบุกจี้เอาทองรูปพรรณ หวังนำไปขายใช้เป็นเงินทุนใช้จ่ายเลี้ยงชีพในช่วงนี้

หลังก่อเหตุชิงทองขี่รถจักรยานยนต์ที่ยืมมานำกลับไปคืนให้เจ้าของ ก่อนมาขับรถตัวเองมาเปลี่ยนเสื้อผ้าตบตาเจ้าหน้าที่ และขับรถหลบหนีมุ่งหน้ามาหาเพื่อนที่ชื่อนายไก่ที่ทำงานอยู่สถานบันเทิงที่อุบลราชธานี โดยหวังจะมาขอพักอาศัยด้วย 2-3 วัน แต่ยังไม่ทันได้พูดคุยกับเพื่อนก็ถูกจับได้ก่อน


ทั้งนี้ ทองรูปพรรณที่ชิงมาทั้งหมดยังอยู่ครบ จากนั้นควบคุมตัวนายคุณสอบส่งไปดำเนินคดี ในข้อหาชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การหลบหนีที่ สภ.โนนไทย จ.นครราชสีมา ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก