FILE PHOTO: Syringes are seen in front of displayed Biontech and Pfizer logos in this illustration taken November 10, 2020. REUTERS/Dado Ruvic มะนิลา 14 ม.ค. – สำนักงานอาหารและยา หรือ เอฟดีเอ ของฟิลิปปินส์อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทคเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว ซึ่งถือเป็นวัคซีนขนานแรกที่ผ่านการอนุมัติในประเทศ
หัวหน้าเอฟดีเอของฟิลิปปินส์กล่าวว่า วัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค ซึ่งมีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 ได้สูงถึงร้อยละ 95 สามารถป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาได้เป็นอย่างดี การนำวัคซีนดังกล่าวเป็นประโยชน์มากกว่าเมื่อพิจารณาชั่งน้ำหนักระหว่างประโยชน์ที่ได้รับกับความเสี่ยงต่างๆ ทั้งยังไม่พบข้อกังวลด้านความปลอดภัยของวัคซีนอีกด้วย อย่างไรก็ดี รัฐบาลฟิลิปปินส์กลับประสบปัญหาในการโน้มน้าวประชาชนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเมื่อสัปดาห์ก่อนชี้ว่า มีชาวฟิลิปปินส์ไม่ถึง 1 ใน 3 ของประชากรที่ต้องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพราะวิตกกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีน
รัฐบาลฟิลิปปินส์คาดว่าจะได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทคล็อตแรกในไตรมาสแรกของปีนี้ผ่านโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ที่เป็นการจัดสรรวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ขององค์การอนามัยโลก และกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาในข้อตกลงซื้อวัคซีนเพิ่มจากบริษัทผู้ผลิตวัคซีนโดยตรง นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ยังได้ทำข้อตกลงซื้อวัคซีนโคโรนาแวก 25 ล้านโดสจากซิโนแวก บริษัทเวชภัณฑ์ของจีน ซึ่งนักวิจัยบราซิลเพิ่งเปิดเผยผลทดลองทางคลินิกในระยะสุดท้ายว่า มีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 ได้เพียงร้อยละ 50.4 แต่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์กลับยืนยันว่า วัคซีนดังกล่าวมีประสิทธิภาพทัดเทียมกับวัคซีนที่พัฒนาโดยสหรัฐและยุโรป
ขณะนี้ ฟิลิปปินส์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 493,000 คน และผู้เสียชีวิตราว 9,700 คน ซึ่งเป็นสถิติผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงเป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รองจากอินโดนีเซีย.-สำนักข่าวไทย
