กทม. 9 ม.ค.-พล.อ.ประวิตร ห่วงผู้ใช้แรงงาน กำชับ “สุชาติ” รมว.แรงงาน เร่งช่วยลูกจ้างตกงานจากโควิด-19 รอบแรกไปแล้วกว่า 2,900 คน
เมื่อวันที่ 9 ม.ค. 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยลูกจ้างผู้ใช้แรงงาน พร้อมสั่งการมาที่ตนให้ติดตามปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะกรณีลูกจ้างจำนวนมากที่ถูกบริษัทเลิกจ้างกะทันหันจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในรอบก่อน อาทิ บริษัท วิงสแปน เชอร์วิสเชส จำกัด ที่เลิกจ้างลูกจ้างจำนวน 2,500 คน บริษัท ยูนิสันแพน (เอเชีย) จำกัด เลิกจ้างลูกจ้าง จำนวน 658 คน และขณะนี้การแพร่ระบาดระลอกใหม่ มีแนวโน้มจะกระจายไปทั่วประเทศ ซึ่งอาจจะซ้ำเติมลูกจ้างได้อีก หากยังไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย จึงได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงาน เร่งรัด ติดตามการช่วยเหลือคุ้มครองสิทธิลูกจ้างอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้รับสิทธิอย่างครบถ้วนและรวดเร็ว เพราะปัญหาค่าใช้จ่ายในเรื่องความเป็นอยู่ และปากท้องของแรงงานในปัจจุบันเป็นสิ่งที่สำคัญ โดยนายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) ได้รายงานว่า ขณะนี้กรมฯ ได้ติดตามการให้ความช่วยเหลือลูกจ้างบริษัท วิงสแปน เชอร์วิสเซส จำกัด โดยได้ดำเนินการประสานบริษัท วิงสแปนฯ จำกัด และผู้ทำแผนฟื้นฟูบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) โดยได้นำแคชเชียร์เช็คมาจ่าย ให้กับลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างจำนวน 2,441 คน แล้วรวมเป็นเงิน 258,309,031.87 บาท ยังคงมีลูกจ้างที่ถูกเลิกจ้างยังไม่มารับแคชเชียร์เช็คอีกจำนวน 59 คน ซึ่งได้ให้คำแนะนำแก่บริษัทฯ โอนเงินตามสิทธิที่ลูกจ้าง จะได้รับเข้าบัญชีธนคารตามรายชื่อของลูกจ้างทั้ง 59 คนแล้ว
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีลูกจ้างบริษัท ยูนิสัน แพน (เอเซีย) จำกัด ที่นายจ้างไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานตรวจแรงานภายในระยะเวลาที่กำหนด และกรมฯได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนายจ้างฐานฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และกระทรวงแรงงานได้อนุมัติเงินกองทุนสงคราะห์ลูกจ้าง กรณีนายจ้างเลิกจ้างโดยไม่จ่ายเงินค่าชดเชย จำนวน 426 คน เป็นเงินจำนวน 6,743,750 บาท ซึ่งมีลูกจ้างมายื่นขอรับเงินกองทุนสงเคราะห์ฯ แล้ว จำนวน 175 คน เป็นเงินจำนวน 2,713,750 บาท ในขณะที่มีลูกจ้างจำนวน 252 คน ได้ทำสัญญากับนายจ้างที่ยื่นข้อเสนอว่าจะจ่ายเงินค่าชดเชย และค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าให้ ซึ่งเป็นจำนวนงินที่ลูกจ้างพอใจ และได้ลงลายมือชื่อไว้ในสัญญาเพื่อเป็นหลักฐาน ส่วนลูกจ้างที่ยังไม่ได้เข้ามายื่นขอรับเงินกองทุนฯ กรมฯจะได้ประสานให้ลูกจ้างเข้ามารับเงินดังกล่าวต่อไป.-สำนักข่าวไทย