3เดือนกองทุนบัตรทองโควิดจ่ายแล้ว 467ล้าน

กรุงเทพฯ8 ม.ค.-สปสช.เผย 3 เดือนแรกปีงบฯ 64 กองทุนบัตรทองกรณี โควิด-19 ประชาชนเข้ารับการคัดกรอง1.55 แสนคน และรักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอก, ผู้ป่วยในที่มีอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค และผู้ป่วยในที่ต้องรับการรักษาโควิด จำนวน 4,887 คน จ่ายชดเชยแล้ว 467.86 ล้านบาท


นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 นับเป็นมหันตภัยด้านสาธารณสุขร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่อทุกประเทศ โดยในส่วนของประเทศไทยจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่นี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากและกระจายเป็นวงกว้างทั่วประเทศขณะนี้ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ(สปสช.) ตระหนักต่อภาวะวิกฤตสาธารณสุขดังกล่าว โดยมีการประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าอย่างต่อเนื่อง ในการเตรียมความพร้อม เพื่อรับมือโดยสนับสนุนหน่วยบริการในการให้บริการประชาชนกรณีโควิด-19

นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวต่อว่า ในปีงบประมาณ 2564 นี้ สปสช.จัดสรรงบ ประมาณพร้อมเพื่อรองรับการบริการกรณีโควิด-19 เช่นกัน เบื้องต้นในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 ที่เป็นช่วงต้นปีงบประมาณ 2564 ที่ผ่านมา มีประชาชนเข้าถึงบริการกรณีโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้จากข้อมูลการเบิกค่าบริการกรณีโควิด-19 ในช่วง 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม–30 ธันวาคม 2563 จ่ายชดเชยจำนวน 467.86 ล้านบาท ตามบริการ ดังนี้


1.บริการตรวจคัดกรองโควิด-19 จำนวน 155,856 คน คิดเป็น 186,980 ครั้ง เป็นจำนวนเงินจ่ายชดเชย 319.39 ล้านบาท

2.บริการรักษาพยาบาล ทั้งกรณีผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก รวมเป็น 4,887 คน (แยกเป็นการเข้ารับบริการผู้ป่วยนอก 53 คน,ผู้ป่วยในที่มีอาการเข้า เกณฑ์สอบสวนโรค (IP PUI)4,421คน และผู้ป่วยในที่ต้องรับการรักษาโควิด-19 425 คน) คิดเป็น 4,993 ครั้ง เป็นจำนวนเงินจ่ายชดเชย 148.46 ล้านบาท

สำหรับงบประมาณที่นำมาใช้ในการเบิกจ่ายช่วงต้นปีงบประมาณ 2564 ในเดือนตุลาคม-ธันวาคม 2563 ตามรายการนี้ เบื้องต้นเป็นการใช้งบประมาณกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติกรณีโควิด-19 ที่ยกมาจากปีงบประมาณ 2563 เพื่อจัดสรรดูแลประชาชนกรณีโควิด-19 ต่อเนื่อง ในช่วงระหวางดำเนินการจัดสรรงบเพิ่มเติมตาม พ.ร.ก.เงินกู้ฯ ในระยะ 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย. 64) ต่อไป


เลขาธิการ สปสช.กล่าวต่อว่า ขณะที่ยอดการเบิกจ่ายค่าบริการ โควิด-19 ในปีงบประมาณ 2563 (เมษายน-กันยายน 2563) นั้น แบ่งเป็นบริการตรวจคัดกรองโควิด-19 จำนวน 589,996 คน คิดเป็น 817,935 ครั้ง และบริการรักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก รวมเป็น 33,951 คน (ในจำนวนนี้มีทั้ง ผู้ป่วยนอก, ผู้ป่วยในที่มีอาการเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค (IP PUI) และผู้ป่วยในที่ต้องรับการรักษาโควิด-19) ซึ่งรวมทั้ง 2 บริการเป็นจำนวนเงินจ่ายชดเชย 2,830.66 ล้านบาท

ทั้งนี้ สปสช.ได้มีการจัดสิทธิประโยชน์กรณีโควิด-19 เพื่อรองรับ ทั้งการ คัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงตามเกณฑ์กรมควบคุมโรคทุกคนทุกสิทธิสามารถเข้ารับบริการคัดกรองเพื่อตรวจยืนยันได้ที่โรงพยาบาลในระบบบัตรทอง โดย สปสช.จะจ่ายชดเชยเหมาจ่ายไม่เกินครั้งละ1,600 บาท เหมาจ่ายเพิ่มเติมครั้งละ 600 บาท บริการเก็บตัวอย่างเหมาจ่ายครั้งละ 100 บาท บริการผู้ป่วยในที่ครอบคลุมค่าชุดPEE ชุดละ740 บาท ห้อง ควบคุมโรควันละ 2,500 บาท ห้องพักผู้ป่วย-สถานที่กักกันโรค วันละ 1,500 บาท ค่ายารักษารายละ 7,200 บาท (หรือชดเชยเป็นยา) ค่ารักษากรณีที่มีภาวะแทรกซ้อนรุนแรง และค่าพาหนะรับส่งต่อผู้ป่วย จ่ายตามระยะทาง และค่าทำความสะอาดรวมชุด PPE ครั้งละ 3,700 บาท

นอกจากงบประมาณเฉพาะที่เป็นการจัดสรรเพื่อเบิกจ่ายในกรณีโควิด-19 แล้ว ภายใต้กองทุนบัตรทองยังมีกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่น (กปท.)ที่เป็นความร่วมมือระหว่างองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และ สปสช.ในการดำเนินงานกิจกรรมโครงการที่มุ่งป้องกันและส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค โดย อปท.สามารถนำงบจากกองทุนนี้มาใช้เพื่อร่วมป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ในพื้นที่ได้ ซึ่งปีงบประมาณ 2564 ที่ผ่านมามี อปท. 394 แห่ง ที่ร่วมจัดทำโครงการป้องกันโควิด-19 เป็นจำนวน 817 โครงการแล้ว

พร้อมกันนี้ สปสช. ยังได้ทำหนังสือถึงกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เพื่อขอความร่วมมือแจ้ง อปท. ที่ร่วมจัดตั้ง กปท. นำกลไก กปท. มาเป็นส่วนหนึ่งเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาโควิด-19 ในพื้นที่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]