สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี 5 มี.ค.- นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท
วันนี้ เวลา 10.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมงานส่งเสริมการขายทางการท่องเที่ยวระดับโลก Internationale Tourismus Borse หรือ ITB Berlin 2025 ณ Berlin ExpoCenter City กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี พร้อมเยี่ยมชมบูธประเทศไทย พบปะกับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติที่เข้าร่วมงาน โดยมีนายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ให้การต้อนรับ
นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในงาน Amazing Thailand Networking Event ณ อาคาร City Cube Berlin นำเสนอศักยภาพประเทศไทยในการเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก พร้อมประกาศปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 ชู Soft Power เสน่ห์ไทย ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาค และเร่งขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยสู่ความยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก หรือ World-Class Destination ขับเคลื่อนนโยบายให้การท่องเที่ยวเป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ที่จะทำให้มีเงินหมุนเวียนในระบบในทุกระดับ โดยในปี 2568 เป็นปีพิเศษที่รัฐบาลได้ประกาศให้เป็นปี Amazing Thailand Grand Tourism and Sports Year 2025 โดยนำเสนอการท่องเที่ยวไทยผ่านSoft Power และในงาน ITB Berlin 2025 นี้เป็นครั้งแรกที่มีการชูเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัดศักยภาพเข้าสู่เวทีการเสนอขายในระดับโลก อีกทั้งส่งเสริมกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี โดยเฉพาะเทศกาลสงกรานต์ ภายใต้ชื่อ Maha Songkran World Water Festival 2025,Pride Month, เทศกาลลอยกระทง และ Amazing Thailand Countdown ขณะที่เทศกาลด้านกีฬาที่สำคัญ ได้แก่ การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันวอลเล่ย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก (FIVB Women’s Volleyball World Championship 2025) และ ซีเกมส์ 2025 โดยตั้งเป้าดึงนักท่องเที่ยวเข้าประเทศไทย 39 ล้านคน สร้างรายได้ทางการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาทในปี 2568
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า รัฐบาลได้มุ่งอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้กับนักท่องเที่ยวด้วยมาตรการต่าง ๆ อาทิ การยกเว้นวีซ่าให้กับผู้เดินทางจาก 93 ประเทศทั่วโลก มาตรการ e-Visa รวมถึงระบบตม.6 ออนไลน์ที่จะนำมาใช้ในเร็ว ๆ นี้ พร้อมผลักดันการมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางทางการบินของภูมิภาค (Aviation Hub) โดยการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง รวมถึงยกระดับสนามบินในระดับภูมิภาค เพื่อมุ่งไปสู่ศักยภาพความพร้อมในการรองรับผู้โดยสาร 250 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้จะยกระดับบริการขนส่งสาธารณะและระบบรางเพื่อสร้างการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ รัฐบาลจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของภูมิปัญญาท้องถิ่นและเอกลักษณ์ที่แตกต่างของประเทศไทยในการเสริมศักยภาพของประเทศ พัฒนาบุคลากรและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและบริการของไทย โดยมี THACCA (Thailand Creative Culture Agency) เป็นหน่วยงานที่จะประสานเชื่อมโยงภาครัฐ ภาคเอกชน และนักลงทุนจากทั่วโลก เพื่อมาร่วมกันยกระดับอุตสาหกรรมสร้างสรรค์และ Soft Power ของไทยให้ไปไกลสู่ระดับโลก รวมถึงการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางในการถ่ายทำภาพยนตร์ของผู้ผลิตภาพยนตร์ทั่วโลก ซึ่งล่าสุดได้มีการเพิ่มอัตราเงินคืน (Cash Rebate) สูงสุดถึงร้อยละ 30 และสิทธิพิเศษเพิ่มเติมให้กับผู้ผลิตภาพยนตร์ต่างชาติที่มาถ่ายทำในประเทศไทย โดยในปี 2567 มีจำนวนกว่า 400 เรื่อง สร้างรายได้กว่า 6,580 ล้านบาท โดยมีไฮไลต์ ได้แก่ ซีรีส์ White Lotus ซีซัน 3 และ Jurassic World
รัฐบาลยังมุ่งมั่นที่จะผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น Wellness and Medical Hub โดยการท่องเที่ยวทางด้านการรักษาสุขภาพและเวลเนสของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ด้วยมาตรฐานสิ่งอำนวยความสะดวกทางการแพทย์ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติและหลากหลายสาขาความเชี่ยวชาญในราคาที่สามารถแข่งขันได้ ทำให้เชื่อมั่นว่าประเทศไทยจะสามารถดึงดูดการลงทุนและขยายการเติบโตของระบบนิเวศการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้
ทั้งนี้ เรื่องการสร้างความเชื่อมั่นทางด้านความปลอดภัยและการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเป็นประเด็นที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะปรับโฉมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนมาตรฐานความยั่งยืนในแหล่งท่องเที่ยวทั่วประเทศไทย โดยในปี 2569 ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน the Global Sustainable Tourism Council Global Conference ในจังหวัดภูเก็ต และร่วมมือกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่นทุกภาคส่วน ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน .-316 -สำนักข่าวไทย