(มีภาพ ปรีชา ))
กรมธนารักษ์ 6 ม.ค.- กรมธนารักษ์ลุยบริหารทรัพย์สินในปี 64 เดินหน้าจัดสรรที่เช่าราชพัสดุ หวังเก็บรายได้เข้ารัฐ 10,000 ล้านบาท ย้ำ ที่ดินเกษตร ที่อยู่อาศัย ยกเว้นค่าเช่าให้ 1 ปี ในช่วงปัญหาไวรัสโควิด
นายยุทธนา หยิมการุณ อธิบดีกรมธนารักษ์ แถลงแผนบริหารงานในปี 64 ว่า กรมธนารักษ์ มุ่ง สนองนโยบายรัฐบาล แก้ไขปัญหาลดความเหลื่อมล้ำของประชาชนในสังคม ด้านที่อยู่อาศัย และที่ทำกิน แก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุด้วยการรับรองสิทธิด้วยการจัดให้เช่า ที่ราชพัสดุภายใต้โครงการ “ธนารักษ์ประชารัฐ” ดังนั้น ในปี 64 จึงกำหนดแผน จัดให้เช่าที่ราชพัสดุประมาณ 3 หมื่นราย หลังจาก ได้จัดให้เช่าแล้วเสร็จเมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 63 เกือบ 10,000 ราย โดยเตรียม แจกสัญญาเช่า ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ นครราชสีมา และเชียงใหม่ เป็นต้น ซึ่งเมื่อรัฐรับรองสิทธิการใช้ที่ดินของราชการ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์เพื่อการอยู่อาศัย ทำการเกษตรกรรม หรือประกอบกิจการต่างๆ ในที่ดินของรัฐอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จะเป็นส่วนช่วยให้คุณภาพชีวิตของประชาชนในสังคมมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และสามารถแก้ปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐได้อีกทางหนึ่งด้วย
ขณะนี้ได้เดินหน้าสำรวจ และเจรจากับส่วนราชการ ในการจัดสรรที่ราชพัสดุ เพื่อให้ประชาชนผู้บุกรุกได้รับสัญญาเช่า เพราะมีหลายจังหวัดได้สำรวจรังวัดแล้ว เฉลี่ยมากกว่า 1,000-3,000 ราย ในแต่ละจังหวัด อย่างเช่น ป่าชายเลนของจังหวัดระนอง ได้เจรจากับส่วนราชการ นำกลับมาจัดสรรเป็นที่ราชพัสดุ เพราะชาวบ้านได้อยู่อาศัยมากกว่า 30 ปี จังหวัดกาฬสินธ์ เชียงใหม่ นครราชสีมา เดินหน้าสำรวจรังวัดไปมากแล้ว. สำหรับ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ได้เจรจากับทหารนำพื้นที่ 5 แสนไร่ มาจัดสรร โดยมีชาวบ้านบุกรุกอยู่ 1 แสนไร่ เพื่อกำหนดให้ชัดเจนว่า พื้นที่ใดสำหรับด้านความมั่นคง และพื้นที่ใดใช้จัดสรรให้กับชาวบ้านผู้บุกรุก ส่วนเกาะเต่า ยืนยันว่าพื้นที่เป็นของราชการ หลังจากเปิดโอกาสให้ชาวบ้านยื่นสิทธิ์โต้แย้งไปแล้วในช่วงที่ผ่านมา จึงกำหนดเป้าหมายการแจกสัญญาเช่าที่ราชพัสดุในปี 65 เพื่อนำมาบริหารเอง จะเพิ่มจากร้อยละ 4 เพิ่มเป็นร้อยละ 10 หรือประมาณ 1 ล้านไร่ จากที่ราชพัสดุทั้งหมด 12.6 ล้านไร่
นอกจากนี้ กรมธนารักษ์ เตรียมจัดเก็บรายได้เข้ารัฐไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นล้านบาทในปี 64 ใกล้เคียงกับยอดหารายได้ในปี 63 ด้วยการ จัดระเบียบการใช้ที่ราชพัสดุสำหรับหน่วยงานของราชการที่นำไปใช้ประโยชน์ เช่น การใช้พื้นที่เพื่อเชิงพาณิชย์ การเปิดเป็นร้านค้าสวัสดิการเชิงพาณิชย์ และส่งสัญญาณให้ประชาชนและเอกชนที่นำที่ราชพัสดุ ได้รับการเช่าแล้วนำไปใช้ผิดประเภท เช่น เช่าเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย แต่นำไปประกอบกิจการการค้า จึงต้องทบทวนให้เสียค่าเช่าที่ราชพัสดุในอัตราที่สูงขึ้นแบบเชิงพาณิชย์ สอดคล้องกับกิจกรรมที่ทำในปัจจุบัน และเพื่อบรรเทาผลกระทบจากไวรัสโควิดภายในปี 64 ได้ยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุที่ดินทำกินด้านเกษตรและที่อยู่อาศัย เป็นเวลา 1 ปี มีกลุ่มเป้าหมาย 1.5 แสนราย แม้จะสูญเสียรายได้ 300-400 ล้านบาท แต่เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ส่วนการเช่าในเชิงพาณิชย์ ต้องแจ้งยอดขาย ผลดำเนินงาน เพื่อพิจารณาผ่อนปรนให้เหมาะสม สำหรับการค้างค่าเช่าที่ราชพัสดุในเชิงพาณิชย์มาเป็นเวลานานหลายปี ในปี 64 คงต้องเจรจาจัดเก็บค่าเช่าเพื่อหารายได้เข้ารัฐเพิ่มเติม
กรมธนารักษ์ ยังเร่งรัดการจัดเก็บค่าเช่าที่ราชพัสดุที่หน่วยงานรัฐวิสาหกิจได้ใช้ประโยชน์อยู่ ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2562 โดยกรมธนารักษ์จะพิจารณาว่ามีสัญญาเช่ากับรัฐวิสาหกิจต่างๆ ซึ่งมีการเก็บค่าเช่าเท่าไร และการใช้ประโยชน์แบบใด เพื่อนำมาประกอบการเก็บค่าเช่าให้เหมาะสม กรมธนารักษ์ ได้ดำเนินการร่วมกับรัฐวิสาหกิจในการจัดทำรังวัดพื้นที่แล้วเสร็จตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 โดยจะเริ่มทำสัญญาเก็บค่าเช่าได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2564 เป็นต้นไป ส่วนการรับโอนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่ได้รับโอนจากการยึดของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ตามคำสั่งศาล นำมาเปิดประมูลเพื่อให้เอกชน ประชาชนเข้ามาประมูลในระบบออนไลน์โดยร่วมกับ บมจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยคาดว่าจะเปิดประมูลให้กับผู้สนใจได้ภายในต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2564
สำหรับการดำเนินการโครงการ “ที่พักอาศัยผู้สูงอายุ รามา-ธนารักษ์” บนที่ราชพัสดุ จังหวัดสมุทรปราการ กรมธนารักษ์ร่วมมือกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล นับว่าผู้สูงอายุสนใจจองซื้อจำนวนมาก เตรียม จับสลากบัญชีรายชื่อผู้ได้รับสิทธิและบัญชีรายชื่อสำรอง ในวันที่ 15 มกราคม 2564 ณ กรมธนารักษ์ และจะดำเนินการก่อสร้างประมาณเดือนเมษายน 64 คาดว่าจะแล้วเสร็จปลายปี 2565 นอกจากนี้ยังหารือกับกระทรวงพัฒนาสังคมฯ นำพื้นที่ 50 ไร่ บริเวณ บางละมุง จ.ชลบุรี มาสร้างที่พักอาศัยผู้สูงอายุ 3,000 ยูนิต เน้นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ราคาไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อหน่วย แต่ปรับเงื่อนไข มุ่งกลุ่มผู้มีอายุมากกว่า 50 ปี เป็นผู้จองซื้อ คาดว่าจะสรุปแนวทางก่อสร้างได้ในเร็วๆนี้.-สำนักข่าวไทย