ภูมิภาค 23 ธ.ค.-หลายจังหวัดเริ่มล็อกดาวน์พื้นที่เสี่ยง ด้านผู้ว่าฯ สุพรรณ สั่งล็อกดาวน์ อ.สองพี่น้อง หลังพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่ 7 คน
หลังจากพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี 7 คน เมื่อวานนี้ นายณัฐภัทร สุวรรณประทีบ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุพรรณบุรี ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุพรรณบุรี ผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีมาตรการป้องกันโควิด-19 สั่งล็อกดาวน์ เฉพาะเขตอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น และมีแนวโน้มจะแพร่ระบาดเพิ่มขึ้นอีก จึงกำหนดให้ปิดสถานที่ต่างๆ งดทำกิจกรรม และเพื่อให้มาตรการที่กำหนดข้างต้นบรรลุผลจึงขอความร่วมมือชาวอำเภอสองพี่น้อง งดเว้นการเดินทางออกนอกพื้นที่โดยไม่จำเป็น โดยประกาศมีผล ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2563 – 3 มกราคม 2564
ส่วนที่จังหวัดสมุทรสงคราม นายชรัส บุญณสะ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสงคราม มีคำสั่งล็อกดาวน์จังหวัด 13 วัน ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค.2563 – 4 ม.ค.2564 โดยมีผลให้ปิด 28 สถานที่ เช่น สถานบริการ, สถานที่เล่นพนันชนไก่ และกัดปลา, โรงภาพยนตร์, คาราโอเกะ, ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก, สถานศึกษาทุกแห่ง, สถาบันกวดวิชา, ฟิตเนส, สปา, ห้างสรรพสินค้า, ยกเว้นแผนกซูเปอร์มาร์เก็ต แผนกขายยา แผนกอาหาร, ปิดตลาด หรือตลาดนัด ยกเว้นที่จำหน่ายอาหาร เวชภัณฑ์ ส่วนร้านอาหาร ร้านกาแฟ ให้ซื้อกลับบ้าน
โดยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ที่ อบต.ดอนมะโนรา ซึ่งมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้หญิงติดโควิดนั้น มีการปิดทำการ 14 วัน เช่นเดียวกับศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตลอดจนโรงเรียน และสถานศึกษาต่างๆ ปิดการเรียนการสอน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อโรค รวมถึงเจ้าหน้าที่นำทีมลงพื้นที่ตรวจหาเชื้อผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่อบต.และครูศูนย์พัฒนาเด็กเล็กรวม 23 ราย และกลุ่มเสี่ยงต่ำอีก 6 ราย
อีกหนึ่งจังหวัดที่มีการล็อกดาวน์ คือ จังหวัดสมุทรปราการ หลังมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 โดยเชื่อมโยงกับการซื้อขายอาหารทะเล ในจังหวัดสมุทรปราการเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ได้ออกประกาศมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเป็นโรคติดต่ออันตรายในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ โดยให้ปิดสถานศึกษาทั้งภาครัฐ และเอกชน และสถาบันกวดวิชา ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก โรงเรียนผู้สูงอายุ ในอำเภอพระสมุทรเจดีย์ และอำเภอพระประแดง ชั่วคราว 14 วัน มีผลตั้งแต่เมื่อวานนี้ (22 ธ.ค.) และให้สถานศึกษาที่มีความเสี่ยง พิจารณาปิดโรงเรียนตามความเหมาะสม ส่วนสถานบริการผับ บาร์ คาราโอเกะ ให้นั่งรับประทานอาหารได้เท่านั้น งดเต้น และงดกิจกรรมที่มีการรวมตัวของประชาชน ทั้งในภาครัฐและเอกชน รวมถึงสั่งปิดสนามชนไก่ เวทีมวย สนามซ้อมมวย ร้านเกมส์ ร้านอินเทอเน็ต และสนุกเกอร์ พร้อมได้สั่งการให้ตั้งจุดตรวจ จุดสกัด จุดคัดกรองโรค เพื่อสกัดกั้นการเดินทางเข้าออก และการเคลื่อนย้ายแรงงานประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงให้ตรวจหาโควิด-19 ในเชิงรุกกับกลุ่มเสี่ยงทุกคน
ที่จังหวัดนครนายก โรงเรียนมาลาสวรรค์พิทยา ประกาศหยุดเรียนกรณีพิเศษตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2563 และจะเปิดการเรียนการสอนตามปกติในวันจันทร์ที่ 4 มกราคม 2564 ส่วนที่โรงเรียนลอออุทิศ ประกาศแจ้งหยุดเรียนกรณีพิเศษ เป็นเวลา 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 23-25 ธันวาคม 2563 โดยไม่ถือว่า เป็นวันขาดเรียน หลังมีนักเรียน 1 คน มีประวัติเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง จังหวัดสมุทรสาคร และเข้ามาในโรงเรียน
ขณะเดียวกันช่วงกลางดึกที่ผ่านมา เทศบาลเมืองนครนายกได้นำป้ายประกาศขอให้ประชาชนทุกท่านที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอย ซื้อของภายในตลาดสด ต้องสวมหน้ากากอนามัยทุกคน มิฉะนั้นจะไม่อนุญาติให้เข้ามาในตลาด พร้อมทั้งปิดทางเข้าออกตามจุดต่างๆ และเปิดให้เข้าออกตามจุดที่กำหนด ต้องผ่านการคัดกรองตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย ล้างมือก่อนเข้าตลาด
หลังสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตว่ามี ชายไทย อายุ 40 ปี ติดเชื้อโควิด 19 จำนวน 1 ราย และมีการสอบสวนโรคพบว่ามีผู้เกี่ยวข้องเป็นบุคคลสัมผัสเสี่ยงสูง 28 ราย ส่งผลให้โรงเรียนในพื้นที่ 3 อำเภอ ของจังหวัดภูเก็ต โรงเรียนรัฐและเอกชนประมาณ 16 แห่ง ประกาศหยุดเรียนตั้งแต่วันที่ 23-25 ธ.ค.63 โดยเฉพาะสถานศึกษาที่มีบุตรของผู้ป่วยศึกษาอยู่ มีเพียงคณะครูอาจารย์และเจ้าหน้าที่เดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ และจากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่ทราบว่าในวันนี้จะมีการทำความสะอาดห้องเรียน ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อภายในโรงเรียน เพื่อความสบายใจของนักเรียนและผู้ปกครอง แม้จะยังไม่ทราบผลตรวจเชื้อที่ชัดเจน ส่วนวันเปิดเรียนนั้นยังไม่มีกำหนด ซึ่งจะต้องรอดูสถานการณ์ไปก่อน และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางจังหวัดได้เชิญผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่งเข้าร่วมหารือในที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อฯ ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ตเพื่อหารือเรื่องแนวทางปฏิบัติ
ส่วนที่จังหวัดสงขลา นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ออกประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา 7 มาตรการ เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค ด้วยการให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าปิดทั้งปากและจมูก ทุกครั้งที่ออกนอกที่พัก ให้ผู้ที่มีอากาคล้ายหวัดและมีประวัติเสี่ยง
สัมผัสกับแรงงานต่างด้าวในพื้นที่เสี่ยง หรือ ไปยังพื้นที่เสี่ยง ต้องเข้าตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาล รวมถึงเพิ่มความเข้มการจัดกิจกรรมที่มีคนเข้าร่วมป็นจำนวนมาก ที่สำคัญคือ ให้ผู้ประกอบการ หรือนายจ้างแรงงานต่างด้าว ควบคุมดูแลงดให้แรงงานต่างด้าวเข้าร่วมกิจกรรมสาธารณะ หรือกิจกรรม และสถานที่ที่มีคนเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มแรงงานต่างด้าว ซึ่งในพื้นที่จังหวัดสงขลามีแรงงานต่างด้าวทำงานในกิจการประมงจำนวนมาก ที่อาจมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มแรงงานที่มีการแพร่ระบาดในจังหวัดสมุทรสาครได้.-สำนักข่าวไทย